สวีท มีทในเครือเตมียเวส กรุ๊ป ส่งแบรนด์เพลิน ชิงมาร์เก็ตแชร์น้ำมันพืช

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สวีท มีทในเครือเตมียเวส กรุ๊ป ส่งแบรนด์เพลิน ชิงมาร์เก็ตแชร์น้ำมันพืช

Date Time: 1 ธ.ค. 2565 12:25 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • สวีท มีท หนึ่งในเครือเตมียเวส กรุ๊ป ส่งแบรนด์น้ำมันพืชเพลิน ร่วมชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดน้ำมันพืชมูลค่า 30,000 ล้าน

Latest


สวีท มีท หนึ่งในเครือเตมียเวส กรุ๊ป ส่งแบรนด์น้ำมันพืชเพลิน ร่วมชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดน้ำมันพืชมูลค่า 30,000 ล้าน

นายเอกภัท เตมียเวส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ เตมียเวส กรุ๊ป และประธานกรรมการ บริษัท สวีท มีท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเติบโตของตลาดน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคตลอดปี 65 นั้น ทั้งตลาดและราคาน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคทั่วโลกมีการเติบโตและมีระดับราคาที่สูงขึ้นในทุกกลุ่ม

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักในปีนี้เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญส่งผลกระทบต่อ Supply Chain ในภาพรวมไปทั่วโลกในหลายด้าน ทั้งภาคการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารและการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อการบริโภค

นอกจากจะมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ยังส่งผลทำให้เกิดความผันผวนในด้านของราคาอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้ผลกระทบโดยตรง ทั้งในด้านปริมาณการผลิตน้ำมันปาล์มของประเทศผู้ผลิตหลักอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการในการบริโภคในช่วงเวลาดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของธุรกิจและการเติบโตของธุรกิจอาหารหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย มีส่วนทำให้มีปริมาณการบริโภคสูงขึ้น และทำให้ราคาน้ำมันจากกลุ่มผู้ผลิตหลักของโลกสูงขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อผลิตภัณฑ์น้ำมันเพื่อการบริโภคในกลุ่มต่างๆ รวมทั้ง สวีท มีท ด้วยเช่นกัน  

ส่วนแนวโน้มของตลาดน้ำมันบริโภคในปี 66 คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับปี 65 คือ ตลาดยังมีการเติบโตและขยายตัวได้อีกมาก สำหรับในไทย ตลาดน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นน้ำมันปาล์ม 70% และน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ 30%

ทั้งนี้ สวีท มีทฯ ซี่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันพืช เพื่อการบริโภคจึงได้เปิดตัวแบรนด์น้ำมันพืชน้องใหม่ คือ น้ำมันพืชเพลิน อย่างเป็นทางการ พร้อมลงชิงแชร์ตลาดเต็มตัว ในทุกกลุ่มของน้ำมันเพื่อการบริโภค เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว น้ำมันปาล์ม และถั่วเหลือง

นายเอกภัท กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานผลิตน้ำมันพืชอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีการลงทุนปรับปรุงและขยายโรงงาน รวมทั้งลงทุนในเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพและกำลังการผลิตของโรงงาน ทำให้มี Capacity ในการผลิตน้ำมันชนิดขวดได้สูงถึง 7,200,000 ขวดต่อเดือน (เฉพาะในขนาดไซน์ 1 ลิตรไซน์เดียว ไม่รวมขนาดบรรจุอื่น) เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นอีกมากในปี 66 โดยที่ผ่านมา สวีท มีท (ประเทศไทย)

ทั้งนี้ เราได้เริ่มเดินเครื่องผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชเพลินครั้งแรกในปี 2561 มียอดจำหน่าย 44 ล้านบาท ปี 2562 ยอดจำหน่าย 46 ล้านบาท กระโดดขึ้นเป็น 200 ล้านบาทในปี 2563 และ 750 ล้านบาท ในปี 2564 โดยคาดว่าในปี 2565 นี้ คาดว่าจะมียอดจำหน่ายสูงถึง 1,200 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี ถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยได้รับปัจจัยหนุนการเติบโตทั้งจากความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางการค้าในทุกกลุ่มที่มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น มีคู่ค้า และมีตลาดกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา รวมถึงปัจจัยจากภายนอกประเทศที่สืบเนื่องมาจากภาวะตลาดโลกที่มีความต้องการน้ำมันเพื่อการบริโภคในปริมาณที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารที่มีน้ำมันพืช ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิตสินค้าด้านการจัดจำหน่ายนั้น

ขณะเดียวกันบริษัท มีการจัดจำหน่ายในประเทศ 80% ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักในประเทศจะเป็นกลุ่ม B2B และส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ 20% ของรายได้รวม โดยส่งออกไปในกลุ่มประเทศแถบเอเชียและกลุ่ม CLMV อาทิ เกาหลี ออสเตรเลีย พม่า ลาว และกัมพูชา รวมทั้งประเทศในกลุ่มทวีปยุโรป อาทิ เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน ฯลฯ

ส่วนแนวโน้มและทิศทางการเติบโตของ เพลิน ในปี 2566 นั้น วางเป้าหมายไว้ว่าจะยังคงรักษาระดับการเติบโตไว้ให้ได้อยู่ในระดับสูงเกินกว่า 30% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยจะมีการเพิ่มสัดส่วนในการส่งออกไปยังต่างประเทศเป็น 40% และในประเทศ 60% ซึ่งได้ดำเนินการเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ