ท็อปส์ ส่งแพลตฟอร์ม Tops Tongtin ดึง SME เป็นพาร์ตเนอร์ดันรายได้ผู้ประกอบการ ดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนนำสินค้าวางขายในห้าง
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 65 นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ปัจจุบัน SME มีมากกว่า 3 ล้านราย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ SME ไทยได้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ทั้งนี้ ท็อปส์ จึงร่วมเป็นกำลังสำคัญในการมอบโอกาสการเติบโตให้กับเอสเอ็มอี ด้วยการเปิดแพลตฟอร์ม ท็อปส์ ท้องถิ่น หรือ Tops Tongtin เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อม และ วิสาหกิจขนาดเล็ก สมัครและนำเสนอสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มได้สะดวก รวดเร็ว พร้อมมีทีมงานร่วมพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพดีที่สุดเพื่อวางจำหน่ายที่ ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท รวมถึงช่องทางออนไลน์
นอกจากเป็นการช่วย SME ได้เข้าถึงช่องทางจำหน่ายที่มีศักยภาพ ยังทำให้ท็อปส์ได้มีสินค้าใหม่ๆ ที่ผลิตโดยผู้ประกอบการภายในประเทศให้ลูกค้าได้เลือกซื้อและเข้าถึงสินค้าที่มีความหลากหลาย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกวันตามแนวคิด Every Day DISCOVERY อีกด้วย
นายไบรอัน ฮิลล์ ผู้อำนวยการ ท็อปส์ ท้องถิ่น บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดตัว ท็อปส์ ท้องถิ่น แพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่สมบูรณ์แบบ รายแรกของค้าปลีกไทย ด้วยความโดดเด่นของท็อปส์ ท้องถิ่น ที่เป็นแพลตฟอร์มที่แตกต่างและมอบสิทธิประโยชน์มากมายให้กับ SME เช่น
- การยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า ช่วยเซฟต้นทุนหลักแสน
- เพิ่มสภาพคล่องโดยเครดิตเทอมเหลือเพียง 15 วัน
- ช่วยเหลือ แนะนำด้านออกแบบผลิตภัณฑ์
- การขอใบอนุญาต ใบรับรองต่างๆ
- ร่วมวางแผนด้านการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายการประชาสัมพันธ์สินค้า
- ให้คำแนะนำด้านแหล่งเงินทุน
- มีทีมงานท็อปส์ ท้องถิ่นและทีมจัดซื้อประจำภูมิภาคให้คำปรึกษาผู้ประกอบการตลอดการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดรับสมัคร SME ทั่วประเทศมาเป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าได้ผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อม และ วิสาหกิจขนาดเล็ก สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 230 ราย จากทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความตั้งใจของ SME ไทย ที่มองหาโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ และมีความสามารถในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และมีความโดดเด่นน่าสนใจ โดยทีมงานท็อปส์ ท้องถิ่นได้ลงพื้นที่และทำการคัดเลือกผ่านกระบวนการอย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดมาจำหน่ายให้กับลูกค้าของเรา
ด้าน ดร.รสรินทร์ รุจนานนท์ และ นางสาวสันต์อาวี กรรณล้วน จากแบรนด์ Jello Boom เล่าว่า รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ท็อปส์ ท้องถิ่น ขอขอบคุณที่มอบโอกาสดีๆ ที่แตกต่างและหาไม่ได้จากที่อื่น ท็อปส์ ท้องถิ่น มองเห็นถึงจุดอ่อน และเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของ SME โดยเฉพาะสิทธิต่างๆ ที่ได้รับ
โดยที่สำคัญเรื่องของการโปรโมตสินค้าที่เป็นจุดอ่อนของผู้ประกอบการ ทีมท็อปส์ ท้องถิ่นก็เข้ามาช่วยให้คำแนะนำและช่วยในการโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ เราเชื่อมั่นว่าความช่วยเหลือจากท็อปส์ ท้องถิ่น จะช่วยนำพาให้เราได้ไปเจอกับลูกค้า ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตของเราได้ จึงไม่ลังเลที่จะเขียนใบสมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่แรก และอยากฝากถึงผู้ประกอบการทุกคนให้พาตัวเองเข้ามารับโอกาสนี้ไปด้วยกัน
นายประวิทย์ ชัยสิริสัมพันธ์ จากแบรนด์ ไคซิน เล่าว่า ได้เข้าร่วมโครงการผ่านทางภาครัฐ เนื่องจาก ท็อปส์ ท้องถิ่นได้ให้การสนับสนุนร่วมกับภาครัฐ จนได้มีโอกาสทำ Business Matching กัน จากที่ได้สัมผัสกับทีมงานทุกคน รู้สึกประทับใจต่อความใส่ใจ การติดตามดูแล และสนับสนุนตลอดโครงการ ตั้งแต่เริ่มก้าวเข้ามา ก็อยากให้ SME เข้าร่วมโครงการและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมกันผลักดันสินค้าไทยให้ไปไกลอีกขั้น
นางสาวนุชนาฎ ฉางเข้าชัย จากแบรนด์ ป้อเจ้า เล่าว่า เริ่มขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และมีความใฝ่ฝันที่จะได้เข้ามาขายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ซึ่งเคยคิดว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับ SME เนื่องจากปกติแล้วต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าหลักแสน และยังมีข้อกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้เป็นอุปสรรค
แต่ ท็อปส์ ท้องถิ่น ได้ตอบโจทย์และทำลายทุกกำแพง ให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีอย่างดีที่สุด จึงตั้งใจอย่างมากเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก จนได้มีโอกาสร่วมเป็นพาร์ตเนอร์และได้เห็นสินค้าตัวเองวางขายที่ท็อปส์ ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของไทยอีกด้วย.