ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประกาศความพร้อมสำหรับการประชุม APEC 2022 เพื่อส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุน รวมถึงความร่วมมือด้านต่างๆ ใน 21 เขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เผยว่า หลังจากการเปิดศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา เราได้รองรับการจัดงานสำคัญทั้งระดับชาติและนานาชาติจำนวนมาก
ทั้งนี้ เราได้รับคำชื่นชมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับการได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดงานเอเปก 2022 และต้อนรับผู้นำและผู้เข้าร่วมประชุมจาก 21 เขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตั้งแต่วันที่ 14-19 พ.ย. 2565 ในฐานะที่เราเป็นเสมือนห้องรับแขกของประเทศไทยและเป็นตัวแทนของคนไทยนั้น โดยเราได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านในการต้อนรับ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจัดงานเอเปก 2022 ในครั้งนี้ จะนำความสำเร็จมาสู่ประเทศชาติและสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันศักยภาพของศูนย์ฯ สิริกิติ์ นั้นเป็นที่สุดของอีเวนต์แพลตฟอร์ม ซึ่งเรามีความพร้อมทุกๆ ด้านสำหรับรองรับการประชุมเอเปก 2022 ทั้งในด้านพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เพียบพร้อมครบครัน สามารถรองรับการจัดงานระดับโลก ด้วยพื้นที่ 300,000 ตารางเมตร และเทคโนโลยีทันสมัย ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการจัดงานอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริการ ที่ครบวงจรด้วยมาตรฐานสากล ทั้งความปลอดภัย สุขอนามัยและโภชนาการ ด้านบุคลากร ที่มีความเป็นมืออาชีพมากด้วยประสบการณ์ในการจัดงานระดับโลก และให้บริการด้วยไมตรีจิตอย่างไทย พร้อมนำเสนอวัฒนธรรมไทยอันเป็นเอกลักษณ์สู่นานาชาติ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ร่วมประชุม
นายศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า การกลับมาของศูนย์ฯ สิริกิติ์ โฉมใหม่ที่พร้อมกับการได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่จัดเอเปก 2022 ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและเป็นการบันทึกความสำเร็จบทใหม่ให้กับประเทศไทย เช่นเดียวกับจุดเริ่มต้นที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เกิดขึ้นจากการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ครั้งที่ 46 ในปี พ.ศ. 2534
ส่วนการจัดงานเอเปก 2022 ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการส่งเสริมบทบาทของไทยบนเวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยังจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลก นอกจากนั้นยังเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยก่อให้เกิดรายได้ในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อันเกิดจากการใช้จ่ายของผู้เข้าร่วมงาน อาทิ ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนภาคบริการต่างๆ อีกด้วย