AOT คาดปี 66 ไทยยังเจอความไม่สมดุลในการท่องเที่ยว พร้อมใช้แอป SAWASDEE by AOT ตอบโจทย์เอาใจนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ ครบทั้งในและนอกสนามบิน
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 65 นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวว่า หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และหลายประเทศปลดล็อกมาตรการให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามประเทศได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 เป็นต้นมานั้น ส่งผลให้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดย ทอท.คาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2566 ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 96 ล้านคน ฟื้นตัว 68% เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารก่อนการแพร่ระบาด และคาดว่าในปี 2567 จะกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติเทียบกับก่อนเกิดโควิด มีจำนวนผู้โดยสารถึง 142 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 นั้นจะเป็นปีแห่งความไม่สมดุล และความโกลาหลของการท่องเที่ยวไม่ใช่เฉพาะแค่ไทยเท่านั้น แต่รวมถึงต่างประเทศด้วย ที่ผ่านมาพนักงานของ AOT อยู่ครบทุกคน เมื่อการเดินทาง และการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเป็นปกติ เราก็พร้อมให้บริการได้เต็ม 100% เช่นเดิม
แต่ก็ยังมีธุรกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบจากโควิดมาเกือบ 3 ปี ทำให้แรงงาน รวมถึงธุรกิจเหล่านี้ยังไม่กลับมาในวงจร ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น บางสนามบินในต่างประเทศต้องรอกระเป๋าเดินทางยาวนานกว่าปกติ หรือบางแห่งต้องรอแท็กซี่นานกว่าปกติ เพราะเราขาดรถเข้ามาหมุนเวียนในสนามบิน เพราะคนขับแท็กซี่ที่กลับบ้านไปตั้งแต่ช่วงโควิด เหล่านี้เป็นต้น
นายนิตินัย กล่าวต่อว่า ด้วยปัญหาเหล่านี้ AOT จึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาบริการในทุกมิติ โดยจะผลักดัน SAWASDEE by AOT ให้กลายเป็น Thailand Travel Super App ตัวช่วยหลักของนักท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานท่าอากาศยานไทยให้ทันสมัย สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ สมฐานะเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่ครองใจคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน
ด้าน นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY กล่าวว่า เราได้ยกระดับฟีเจอร์ใหม่บน SAWASDEE by AOT ตอบโจทย์ 3 ด้าน ได้แก่ 1. Digital Airport Experiences ยกระดับประสบการณ์ภายในสนามบิน ครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และ หาดใหญ่
2. Digital Lifestyle ยกระดับบริการด้านการใช้จ่ายและสิทธิพิเศษ 3. Digital Travel Safety ยกระดับความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ SAWASDEE by AOT มีฟีเจอร์ที่โดดเด่น ทั้ง Flights เชื่อมต่อข้อมูล Flight Board จากสนามบิน ค้นหาเที่ยวบินทั้งขาเข้า-ขาออก สามารถบันทึกไฟลท์บินล่วงหน้าก่อนการเดินทาง พร้อมแจ้งเตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงของเที่ยวบิน Queue Time แสดงข้อมูลเวลารอคิวในทั้ง 3 โซนภายในสนามบิน
ได้แก่ จุดเช็กอิน จุดตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย และจุดตรวจหนังสือเดินทาง เป็นตัวช่วยสำคัญให้นักท่องเที่ยวไม่พลาดเที่ยวบิน Taxi Reservation สะดวกรวดเร็วกว่ากับบริการจองรถแท็กซี่ เฉพาะผู้ใช้งานแอปพลิเคชันเท่านั้น
ขณะเดียวกัน SAWASDEE Pay ถือเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่พัฒนาร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ KTB เพื่อมอบประสบการณ์ช็อปปิ้งสุดสนุกให้กับนักท่องเที่ยว สามารถผูกการใช้จ่ายกับบัตรเดบิตและบัตรเครดิต Visa, MasterCard สำหรับใช้จ่ายกับร้านค้าพันธมิตรทั้งในและนอกสนามบิน พร้อมรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 50%
ส่วน Tourist Help เป็นร่วมมือกับตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว และสามารถสื่อสารได้ 6 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และรัสเซีย Insurance บริการซื้อประกันเดินทาง และประกันอุบัติเหตุในราคาพิเศษ พร้อมรับความคุ้มครองตลอดการเดินทางจากเมืองไทยประกันภัย (MTI) พันธมิตรประกันภัยชั้นนำระดับประเทศ
นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ยังรองรับได้สูงสุดถึง 8 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน และรัสเซีย พร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่จะทยอยเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ อาทิ Airport Free Wi-Fi ใช้อินเทอร์เน็ตภายในสนามบินฟรี Premium Services ให้บริการ Butler & Buggy และเทคโนโลยี AR ที่กำลังถูกพัฒนาขึ้นเพื่อบริการนักท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ภายในสนามบิน รวมถึงบริการอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาร่วมกับพันธมิตรอีกด้วย