คิวเฟรชลุยส่งอาหารทะเลแช่แข็งทำตลาดพรีเมียมไดนิ่งรับกำลังซื้อ

"คิวเฟรช" ภายใต้บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ปฯ เดินหน้าเจาะตลาดพรีเมียมไดนิ่งหลังมองเห็นโอกาสเติบโต ตั้งเป้าปี 2566 กินส่วนแบ่งตลาดแตะ 300 ล้านบาท

นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกุ้งและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ทำธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง กล่าวว่า แบรนด์คิวเฟรช (Qfresh) ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ปฯ ต่อยอดความสำเร็จกลยุทธ์ฟรีดอม (Fandom) จัดงาน "Qfresh’s Table" เชิญ 2 เชฟดัง มอสและแพม โชว์ทำอาหารผ่าน 6 วัตถุดิบ การันตีความสดใหม่เตรียมเจาะตลาดพรีเมียมไดนิ่ง โดยมั่นใจปี 2565 ธุรกิจคิวเฟรชจะเติบโต 20%

ทั้งนี้ คิวเฟรชภายใต้สโลแกนฟรีซความสดใหม่ให้ชีวิตลงตัว วางกลยุทธ์ดึงศักยภาพความพร้อมด้านวัตถุดิบขยายฐานลูกค้าจากเดิมเน้นกลุ่มปรุงอาหารสำหรับรับประทานในครอบครัว (Home Cooking) ไปสู่กลุ่มพรีเมียมไดนิ่ง (Premium dining) คือ ธุรกิจจัดเลี้ยงโรงแรม ร้านอาหารแบบโอมากาเสะและบุฟเฟต์ระดับ 4-5 ดาว เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มีความพร้อมใช้จ่าย เพื่อประสบการณ์และสุนทรียภาพในการรับประทานอาหารที่ดี มีคุณภาพ ผ่านการปรุงด้วยความประณีตมากขึ้น

นายพีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ เห็นโอกาสทางธุรกิจของตลาดพรีเมียมไดนิ่งมีศักยภาพทางการเติบโตต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อแล้วยังน่าจะคุ้นเคยกับวัตถุดิบใหม่ๆ จึงจัดงาน Qfresh’s Table ขึ้นโดยได้ มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ พรีเซ็นเตอร์คิวเฟรซและเชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม จาก Top Chef Thailand มาทำ 6 เมนู พิเศษจากวัตถุดิบสุดพรีเมียมของคิวเฟรช เช่น
กุ้งล็อบสเตอร์ (Lobster) กุ้งแดงอาร์เจนตินา (Argentinean Shrimp Wild Caught) หอยเชลล์ฮอกไกโด (Hokkaido scallop) ไข่ปลาแซลมอน (Chum Ikura) และไข่กุ้งดำ (Black ebiko) เป็นต้น ร่วมกันครั้งแรก เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าตัวใหม่ให้ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร และสื่อมวลชน

ด้าน นายธนโชติ บุญมีโชติ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ปฯ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของคิวเฟรชในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 200 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 15% ผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าให้ความสนใจสั่งซื้อลำดับต้นๆ คือ ปลากะพงสไลซ์ กุ้งขาว กุ้งล็อบสเตอร์ และปลาแซลมอน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมทั้งกลุ่มอาหารพร้อมทานและแช่แข็ง คาดว่า ภายในปี 2566 จะสามารถแชร์มูลค่าตลาดได้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท

สำหรับจุดแข็งและความพร้อมของคิวเฟรชคือ การเป็นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีคุณภาพระดับสากล การันตีด้วยมาตรฐานการผลิตเดียวกัน ทั้งสินค้าภายในประเทศและสินค้าส่งออกไปทั่วโลก เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้คนทั่วโลกและในฐานะที่เป็นบริษัทของคนไทย ไทยยูเนี่ยนและคิวเฟรชจึงอยากให้คนไทยได้บริโภคอาหารทะเลที่มีคุณภาพและอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยปัจจุบันคิวเฟรชใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย คือ IQF (Individual Quick Freezing) และ freeze on board
ในการผลิตอาหารทะเลเพื่อคงความสดใหม่และคุณค่าไว้อย่างครบถ้วน อาหารทะเลพรีเมียมได้รับการบรรจุเพื่อนำมาปรุงอาหารได้อย่างสะดวกสบายและง่ายต่อการจัดเก็บตอบโจทย์ตรงใจผู้บริโภคที่เน้นคุณภาพของวัตถุดิบ.