บัดดี้มาร์ทชูธงแก้ Pain point ร้านโชห่วย คงจุดเด่นเน้นความสัมพันธ์ท้องถิ่น

แม็คโคร ส่ง "บัดดี้มาร์ท" ชูธงแก้ Pain point ร้านโชห่วยดั้งเดิม แต่ยังคงจุดเด่นเน้นความสัมพันธ์ท้องถิ่น ดันยอดขายให้เติบโตกว่าเดิม 40%

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 65 นายเอกพล คูสุวรรณ ผู้จัดการโครงการบัดดี้มาร์ท หนึ่งในธุรกิจของแม็คโคร กล่าวว่า จากข้อมูลจากสมาคมผู้ค้าปลีกในปัจจุบันพบว่า ร้านค้าดั้งเดิม หรือโชห่วย อยู่ในตลาดเฉลี่ยประมาณ 45-47%

อย่างไรก็ตามเราพบว่า อุปสรรคสำคัญของร้านโชห่วย คือ 1. พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปซื้อร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่มากขึ้น 2. การปรับตัวเรื่องสินค้าและบริการไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้า 3. สภาพคล่องและความสามารถในการกู้เงินจากแหล่งทุนต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงร้านค้า 4. ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร้านค้าที่น่าสนใจ และ 5. ไม่มีผู้สืบทอดกิจการ

นอกจากนี้จุดที่สำคัญที่ทำให้ร้านค้าโชห่วยเดิมเติบโตได้ช้า ขาดเงินทุนหมุนเวียน ไม่มีสินค้าที่หลากหลายตอบโจทย์ลูกค้า เพราะส่วนหนึ่งมาจากการให้เงินเชื่อ ด้วยปัญหาเหล่านี้ บัดดี้มาร์ท จึงเข้ามาแก้ Pain point สำคัญของร้านค้าโชห่วย

ขณะเดียวกันเรายังมีฐานข้อมูลสำคัญที่มาจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจกับโชห่วยกว่า 5 แสนรายของแม็คโคร ทำให้รู้ลึก รู้จริง ในสิ่งที่ร้านโชห่วยควรปรับ เพื่อสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น โดยเน้นอัตลักษณ์ของเจ้าของร้านเดิม เช่น ความสัมพันธ์ในชุมชนเข้ามาต่อยอด 

"สิ่งสำคัญที่สุดของร้านโชห่วย คือ เจ้าของร้าน หรือคาแรกเตอร์เจ้าของร้าน โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับผู้คนในชุมชน ความเข้าอกเข้าใจความต้องการสินค้าแต่ละชนิดของลูกค้า ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการทำร้านโชห่วย และเจ้าของร้านจะยิ่งแข็งแรงกว่าเดิม ถ้าหากเราเข้าไปทำเครื่องมือทางการตลาดให้เขาเพิ่ม"

นอกจากนี้ เรื่องการเลือกสินค้าให้เหมาะกับชุมชน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเพิ่มยอดขายให้ร้านบัดดี้มาร์ท ซึ่งเราพบว่า สินค้าแบรนด์ดังเป็นตัวช่วยดึงลูกค้าเข้าร้านก็จริง แต่ร้านเองต้องเลือกสินค้าให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละท้องถิ่นโดยรอบด้วย

โดยจุดนี้ทำให้แม็คโครร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ดัง อาทิ ไทยน้ำทิพย์ ยูนิลีเวอร์ พีแอนด์จี เนสท์เล่ มาประสานพลังเพื่อนำเสนอดีลพิเศษเฉพาะสำหรับร้านบัดดี้มาร์ท แตกต่างจากร้านเครือข่ายธุรกิจอื่นที่เน้นขายเฮ้าส์แบรนด์ของตัวเอง อีกทั้งยังมีการทำโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน เรายังได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ ปล่อยสินเชื่อโดยสามารถกู้ได้สูงสุด 100% ของมูลค่าการลงทุน มีระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดนาน 5 ปี พร้อมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ประกอบการบัดดี้มาร์ท

นายเอกพล กล่าวว่า ปัจจุบันมีร้านค้าโชห่วย สนใจเข้าร่วมกับโมเดลบัดดี้มาร์ทเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเก็บสต๊อกสินค้าจำนวนมาก ทางบัดดี้มาร์ทจึงออกแบบให้เจ้าของร้านสั่งสินค้าได้บ่อยๆ และมีความถี่ในการส่งสินค้าเข้าร้านถึงอาทิตย์ละ 4 ครั้ง และเจ้าของร้านยังสามารถปรับเปลี่ยนออเดอร์ให้เหมาะกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ ส่งผลให้ผู้ที่เปิดร้านกับบัดดี้มาร์ทมียอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 40%

ขณะเดียวกัน บัดดี้มาร์ท ได้วางกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้น ให้สมกับที่เป็นร้านค้าคู่ใจชุมชน ทั้งการเสริมบริการพิเศษอื่นๆ อาทิ ตู้เติมเงิน ตู้กาแฟอัตโนมัติ ตู้ซักผ้าอัตโนมัติ และในอนาคตยังวางแผนเพิ่มสินค้าชุมชนภายในร้าน เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจภายในชุมชนสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจการค้าของประเทศ

ปัจจุบันเรามีร้านบัดดี้มาร์ทอยู่ 25 สาขา เป็นร้านโชห่วยเดิมทั้งหมด ซึ่งหลังจากปรับแล้วยอดขายขึ้นมา 40% และตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุง รวมถึงเซ็นสัญญาประมาณ 200 ร้าน โดยเราเน้นในจังหวัดภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเราตั้งในปี 66 จะมีบัดดี้มาร์ท 2,000 สาขา