แกร็บมาร์ท ชู 3 กลยุทธ์หนุนร้านเล็ก-โชห่วย เพิ่มยอดขายผ่านแพลตฟอร์ม

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

แกร็บมาร์ท ชู 3 กลยุทธ์หนุนร้านเล็ก-โชห่วย เพิ่มยอดขายผ่านแพลตฟอร์ม

Date Time: 22 ก.ย. 2565 16:51 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • แกร็บมาร์ท ชู 3 กลยุทธ์ คุ้ม ครบ คูล หนุนร้านเล็ก และโชห่วย เพิ่มยอดขายผ่านแพลตฟอร์ม เผยสินค้าขายดีเดือน ส.ค. 65 ได้แก่ หมูสับ มะนาว แตงกวา และพวงมาลัย

Latest


แกร็บมาร์ท ชู 3 กลยุทธ์ คุ้ม ครบ คูล หนุนร้านเล็ก และโชห่วย เพิ่มยอดขายผ่านแพลตฟอร์ม เผยสินค้าขายดีเดือน ส.ค. 65 ได้แก่ หมูสับ มะนาว แตงกวา และพวงมาลัย

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 65 นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด-พันธมิตรทางธุรกิจ และธุรกิจแกร็บมาร์ท แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บมาร์ท เป็นบริการสั่งซื้อสินค้าแบบออนดีมานด์จากซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป ซึ่งถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่อง

โดยเราได้เริ่มเปิดให้บริการในประเทศไทยในช่วงไตรมาส 2/63 เนื่องจากเป็นบริการที่ช่วยตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยและความรวดเร็วในการจัดส่งแบบทันที ประกอบกับอิทธิพลจากสถานการณ์โควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ในปีที่ผ่านมาธุรกิจแกร็บมาร์ทในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันแกร็บมาร์ทครอบคลุมพื้นที่การให้บริการใน 68 จังหวัด และมีร้านค้าพันธมิตรรวมกว่า 15,000 สาขา

ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เทรนด์การสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งนี้ รายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (e-Conomy SEA Report 2021) ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา (2564) ตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่ารวมสูงถึง 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 62% จากปีก่อนหน้า

โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดนับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล ซึ่งรวมถึงตลาด Quick Commerce ที่แม้ความนิยมและมูลค่าตลาดอาจจะยังไม่สามารถเทียบเท่ากับธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้

แต่ถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มของสดและของชำ หรือ Online grocery ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเข้าถึง หรือ penetration rate อัตราการซื้อสินค้าประเภทนี้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพียง 2% เท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลักเมื่อต้องเลือกซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันแบบออนดีมานด์ นั่นคือ การมีสินค้าที่หลากหลายให้เลือกสรร การจัดส่งที่รวดเร็ว และราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดควิกคอมเมิร์ซ แกร็บมาร์ทเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจและขยายฐานผู้ใช้บริการผ่านกลยุทธ์คุ้ม ครบ คูล ซึ่งครอบคลุมการเสริมความแข็งแกร่งใน 3 ด้าน คือ 

1. คุ้ม (Affordability): นำเสนอความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้บริการผ่านการทำแคมเปญการตลาดและส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรร้านค้าและสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ พร้อมมอบดีลส่วนลดต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือโมเมนต์พิเศษ รวมถึงส่วนลดขั้นกว่าจากแพ็กเกจสมาชิกรายเดือน หรือ GrabUnlimited 

2. ครบ (Wide Selection): เพิ่มหมวดหมู่ของสินค้าให้ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ของสดของชำ สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป สินค้าด้านสุขภาพและความงาม สินค้าสำหรับแม่และเด็ก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้สำนักงาน ไปจนถึงสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง 

3. คูล (User Experience): พัฒนาเทคโนโลยี แอปพลิเคชัน ตลอดจนระบบการให้บริการและมาตรฐานการจัดส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้บริการสามารถค้นหา เลือกซื้อ และสั่งสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

เช่น การใช้ระบบ AI ในการนำเสนอดีลส่วนลดจากร้านค้าในรัศมีของผู้ใช้บริการ การจัดอันดับร้านค้าในแอปพลิเคชันตามคะแนนความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ และการจัดให้มีไอคอนในแกร็บมาร์ทสำหรับประเภทสินค้าตามเทศกาล 

นอกเหนือจากกลยุทธ์หลักใน 3 ด้าน ในปีนี้แกร็บยังเตรียมเดินหน้าขยายพันธมิตรและการเข้าถึงสินค้าไปยังกลุ่มร้านค้าขนาดเล็กมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ร้านโชห่วย ร้านขายของชำในชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถใช้แพลตฟอร์มของแกร็บในการเข้าถึงฐานลูกค้าในวงกว้างขึ้น ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายโอกาสในเชิงธุรกิจให้กับกลุ่ม MSMEs ได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจ GrabForGood ที่มุ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนในสังคม

นางสาวจันต์สุดา กล่าวอีกว่า แกร็บมาร์ท เปิดให้บริการใน 7 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และเมียนมา โดย 3 ประเทศที่แกร็บมาร์ทมีการเติบโตโดดเด่น ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย

ปัจจุบัน ในประเทศไทย แกร็บมาร์ท มีสินค้ากว่า 180,000 รายการ มีสินค้ารวมทั้งสิ้น 15 หมวดหมู่ ร้านค้ากว่า 15,000 สาขา และให้บริการใน 68 หัวเมืองทั่วประเทศ โดยผู้ใช้บริการแกร็บมาร์ท 54% มีอายุระหว่าง 25-34 ปี 64% แต่งงานและมีลูก 65% เป็นพนักงานออฟฟิศ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง เร็วๆ นี้เราเตรียมขายพื้นที่ให้บริการแกร็บมาร์ท เช่น อุบลราชธานี อุดรธานี และภูเก็ต ก็จะเน้นขยายจำนวนและประเภทร้านค้าให้มีความครอบคลุมยิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ แกร็บมาร์ท 5 อันดับสินค้าขายดีในเดือน ส.ค. 65 ได่แก่ ไข่ไก่ หมูสับ มะนาว แตงกวา และพวงมาลัย ที่ผ่านมาแกร็บมาร์ทจำหน่ายชุดตรวจ ATK ไปแล้วกว่า 1.2 ล้านชุด (หรือเทียบเท่ากับ 2% ของประชากรไทย)

โดยช่วงเวลาที่มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านแกร็บมาร์ทสูงสุดของวัน คือ 11.00-13.00 น. และ 17.00-19.00 น. เรามีร้านค้าขนาดเล็กกว่า 9,000 ร้านที่เริ่มขายสินค้าผ่านแกร็บมาร์ทในช่วงวิกฤติโควิด ส่วนเวลาเฉลี่ยในการจัดส่งสินค้าที่สั่งผ่านแกร็บมาร์ท คือ 25 นาที ซึ่งเร็วกว่าเวลาที่ใช้ในการเดินทางบนท้องถนนของกรุงเทพฯ ช่วงเช้า นับตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ แกร็บมาร์ทจำหน่ายผลไม้ไปแล้วมีน้ำหนักรวมกว่า 5 ล้านกิโลกรัม.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ