เปิดเบื้องหลังความสำเร็จ “เต่าบิน” คาเฟ่อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง หนึ่งเดียวในโลก

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เปิดเบื้องหลังความสำเร็จ “เต่าบิน” คาเฟ่อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง หนึ่งเดียวในโลก

Date Time: 26 พ.ค. 2565 05:05 น.

Summary

  • เปิดความสำเร็จ “เต่าบิน” คาเฟ่อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนวัตกรรมจากมันสมองอัจฉริยะกับ 35 สิทธิบัตรของนักพัฒนาคนไทย

Latest

เปิดอินไซต์ คนไทย #ติดแกลม เมื่อคนต่างเจน มองคำว่า "หรูหรา" ไม่เหมือนกัน ?

เปิดความสำเร็จ “เต่าบิน” คาเฟ่อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนวัตกรรมจากมันสมองอัจฉริยะกับ 35 สิทธิบัตรของนักพัฒนาคนไทย

โดยปรากฏการณ์ “เต่าบิน” ฟีเวอร์ที่กำลังเป็นกระแสมาแรงและเป็นไวรัลในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ หลังตู้ขายเครื่องชงดื่มพร้อมเสิร์ฟตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจนคิวต่อแถวหน้าตู้ยาวเหยียด!!

อะไรที่ทำให้ผู้บริโภคยอมเข้าแถวรอคิวหน้าตู้!?! ทั้งที่มีร้านขายเครื่องดื่มชากาแฟ น้ำปั่น โซดา โกโก้ อยู่ทุกหัวระแหง ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเจ้าของและผู้ก่อการคิดค้นพัฒนาตู้ “เต่าบิน” กับ “พี่เต่า... พงษ์ชัย อมตานนท์” โดย “พี่เต่า” เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาช่วงปี 63 ที่เริ่มเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ลองนำเข้าตู้เครื่องดื่มอัตโนมัติ Vending machine จากต่างประเทศมาทดลองตลาด เพราะการผลิตและการซื้อขายไม่ต้องสัมผัสกับผู้คนโดยตรง ปรากฏว่าได้การตอบรับที่ดี แต่การทำงานของตู้มีปัญหาเยอะมาก เมื่อเครื่องเสียยังต้องซ่อมเอง

จึงคิดพัฒนาและผลิตเครื่องขึ้นเอง เพราะ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) เป็นบริษัทที่ทำวิจัยพัฒนาสินค้านวัตกรรมอยู่แล้ว มีการลงทุนด้าน R&D มากมาย ตั้งแต่ทำธุรกิจตู้สาขาโทรศัพท์ ชุมสายอินเตอร์เน็ต ผลิตแผงวงจรระบบสื่อสาร ไฟจราจร กำไล EM ติดตามตัว จนถึงตู้ “บุญเติม” และล่าสุดยังรับประกอบชิ้นส่วนแผงวงจรไฟฟ้าที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าให้กับบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลกอีกด้วย

ตลอด 2 ปี ทีมงานได้ออกแบบปรับปรุงและพัฒนานวัตกรรม “เต่าบิน” อย่างต่อเนื่อง จนมาเป็นคาเฟ่อัตโนมัติที่มี AI เป็น Robotic Barista หรือ “บาริสต้าบอท” ชงเครื่องดื่มร้อน-เย็นและปั่นได้มากกว่า 170 เมนู และได้จดสิทธิบัตรที่ได้คิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมการทำงานภายในตู้ไปแล้วถึง 35 สิทธิบัตร

ภายใน “ตู้เต่าบิน” ที่มีความกว้างยาว 1 ตารางเมตรนั้นเต็มไปด้วยสมองกลอัจฉริยะ มีชิ้นส่วนภายในกว่า 7,000 ชิ้นที่พัฒนาโดยคนไทย 100% ทั้ง Hard ware-Soft ware และยังไม่มีที่ไหนในโลกที่พัฒนาตู้ชงดื่มอัตโนมัติที่มีความสามารถมากขนาดนี้

ในตู้มีทั้งเครื่องผลิตน้ำแข็งและโซดา เครื่องชงและปั่น โดยน้ำที่ใช้ทำน้ำแข็ง-โซดา และชงเครื่องดื่มต่างๆนั้น เป็นน้ำ RO ที่ผ่าน UV ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการผสมกับวัตถุดิบตาม order ลูกค้า และก่อนจะชงแก้วถัดไปจะมีระบบทำความสะอาดหัวชง โดยใช้น้ำร้อนแรงดันสูง หรือแม้กระทั่งขาตั้งตู้ยังมีนวัตกรรมป้องกันไม่ให้มดหรือแมลงเล็ดลอดเข้าไปในตู้ได้ จึงมั่นใจได้ในเรื่องมาตรฐานความสะอาดในทุกขั้นตอน

ขณะที่ “ตอง...วทันยา อมตานนท์” ลูกสาว “พี่เต่า” ในฐานะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง ที่รับหน้าที่บริหารจัดการธุรกิจ “เต่าบิน” เล่าว่า เป็นคนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มอยู่แล้ว “ตอง” จึงเป็นส่วนสำคัญในการคิดเมนูต่างๆร่วมกับบาริสต้ามืออาชีพ และเธอยังเป็นผู้สรรหาวัตถุดิบคุณภาพสูงที่ใช้เป็นส่วนผสมด้วยตนเอง

“ตอง” ย้ำว่าสิ่งที่ทำให้ “เต่าบิน” ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วคือเรื่องรสชาติและวัตถุดิบที่ตนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก รสชาติต้องอร่อยพรีเมียม สู้กับคาเฟ่ราคาแพงได้ และวัตถุดิบต้องคุณภาพดี สดใหม่ แม้จะมีต้นทุนสูง อย่างนมต้องเป็นนมผงโคแท้อย่างดีนำเข้าจากนิวซีแลนด์ ไม่มีครีมเทียมผสม หรือผงชาเชียวก็ใช้ของดีราคาสูง แต่เราสามารถขายได้ในราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีราคาตั้งแต่ 15 บาทถึง 60 บาท ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 34 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สามารถแข่งขันและเข้าถึงฐานผู้บริโภคในวงกว้างได้

“มั่นใจว่าความนิยมชมชอบในเครื่องดื่ม “เต่าบิน” ไม่ใช่เป็นเพียงกระแส แต่เพราะรสชาติที่อร่อยถูกใจ วัตถุดิบคุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้ ที่สำคัญคือความสะอาดที่มั่นใจได้ และสะดวกซื้อได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งเราอยากให้เครื่องดื่ม “เต่าบิน” เป็นทุกวันของทุกคน”

ปัจจุบัน “เต่าบิน” มีเมนูหลากหลายตอบโจทย์นักดื่มทุกเพศทุกวัย ทั้งคอกาแฟ หรือสายหวาน นมและช็อกโกแลต สายหวานซ่าโซดา ส่วนเมนูชาก็มีทั้งชาไทย ชาไต้หวัน และชาเขียวมัจฉะ สายฟิตออกกำลังก็มีโปรตีนเชคที่อร่อยและสุขภาพดีด้วย แถมยังมีเต่าทรงพลังเครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงกัญชาโซดาและอื่นๆ ครอบคลุมทั้งเมนูร้อน, เย็น และปั่น โดยลูกค้าสามารถเลือกได้เอง เช่น ความหวานมีให้เลือก 5 ระดับ, เมล็ดกาแฟ มีทั้งคั่วเข้ม คั่วกลาง คั่วอ่อน แถมเพิ่มช็อตได้ด้วย ที่สำคัญการเป็น “บาริสต้าบอท” ที่ใช้ AI ควบคุมและใช้แขนกลชั่งตวงวัดวัตถุดิบจึงทำให้ “เต่าบิน” ทุกแก้วมีรสชาติมาตรฐานเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะกดสั่ง “เต่าบิน” จากที่ไหน

เมนูขายดีได้รับความนิยมที่สุดขณะนี้นำโดย โกโก้เย็น โอริโอ้ปั่น อเมริกาโน่เย็น ลาเต้เย็นและเมนูโซดาต่างๆ รวมทั้งเป๊ปซี่ใส่น้ำแข็งละเอียดเย็นๆราคา 15 บาทก็ขายดี กัญชาโซดาและเครื่องดื่มชูกำลังที่มีรสอร่อยชื่นใจก็ได้รับความนิยม ส่วนตู้ที่ขายดีสุด อยู่ในศูนย์การค้าและโรงพยาบาลรวมทั้งสถานีรถไฟฟ้า โดยตู้ที่ขายดีสุดเคยทำสถิติสูงสุดวันนึงได้เกือบ 400 แก้ว ทั้งนี้ “เต่าบิน” ยังตั้งรับ order อยู่ในที่พักคอนโดฯ โรงงาน ตึกสำนักงานรัฐและเอกชน รวมทั้งสถานศึกษาอีกด้วย

ปัจจุบันเต่าบินกระจายอยู่ทั่วประเทศ 1,500 ตู้ ทำยอดขาย 110,000 แก้วต่อวัน มีรายได้กว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน กำไรเฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาทและสิ้นปี 65 ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 5,000 ตู้ โดยสิ้นปี 67 ตั้งเป้ามีครบ 20,000 ตู้ ถึงวันนั้นคาดว่าจะขายได้วันละ 600,000-1 ล้านแก้ว เฉลี่ยต่อตู้อยู่ที่ 30-50 แก้วต่อวัน รายได้จะโตก้าวกระโดดมาที่ 18-30 ล้านบาทต่อวัน หรือมีรายได้รวม 6,000-10,000 ล้านบาทต่อปี

ซึ่งถือว่ายังมีสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ปัจจุบันอยู่ที่ปีละ 247,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกาแฟ 60,000 ล้านบาท (24%) เครื่องดื่มโซดา 62,000 ล้านบาท (25%) นมและช็อกโกแลต 60,000 ล้านบาท (24%) เครื่องดื่มชูกำลัง 20,000 ล้านบาท (8%) ชา 13,000 ล้านบาท (5%) และอื่นๆอีก 32,000 ล้านบาท (13%)

แผนธุรกิจ “เต่าบิน” ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ หลังมีนักธุรกิจต่างประเทศเข้ามาเจรจาเพื่อขอนำ “เต่าบิน ”ออกไปสยายปีกในต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ดูไบ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนามและสิงคโปร์ ส่วนจะเห็นการส่งออกได้ช่วงไหน ยังคงต้องติดตาม

นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาหาโอกาสในการต่อยอดขยายธุรกิจ เช่น การนำเครื่องดื่มบางเมนูที่ได้รับความนิยมมาผลิตเป็นเครื่องดื่มบรรจุขวด เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง, น้ำกัญชาโซดา แบรนด์เต่าบิน และเพิ่มสินค้าอาหารที่ตอนนี้เริ่มนำเมนูโจ๊กมาให้บริการแล้ว ต่อไปอาจพัฒนาเมนูอาหารแบบปรุงสดๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารตามสั่ง

ขณะที่การขยายธุรกิจกลับไปที่ต้นน้ำด้านวัตถุดิบ เพราะเมื่อมีจุดติดตั้งถึง 20,000 ตู้ อาจตั้ง “โรงคั่วกาแฟ” เอง เพราะต้องใช้วัตถุดิบมากขึ้น หรือเปิดโรงผลิตน้ำ RO เพื่อรองรับจำนวนตู้และปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น ถึงตอนนั้นเราจะนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพยฯ์ “เต่าบิน” จะเป็นหุ้นมหาชนและ “เต่าบิน” จะเป็นทุกวันของทุกคน ตามที่เราตั้งใจอยากให้เป็น “ตอง วทันยา” กล่าวทิ้งท้าย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ