คิดต่างอย่าง “แสนสิริ”

รับเทศกาลส่งความสุข และท่องเที่ยวส่งท้ายปี วันที่ 1 ธ.ค.นี้ โรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด (The Standard) หัวหิน โรงแรมแห่งแรกในเมืองไทยและเป็นรีสอร์ตติดชายหาดแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แบรนด์ The Standard แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่มีอิทธิพลที่สุดในธุรกิจบูติกโฮเต็ลระดับโลก จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ

ภายใต้คอนเซปต์ที่ผสมผสาน “ธรรมชาติ ศิลปะ แฟชั่น รสนิยม และความล้ำสมัย” สร้างการพักผ่อนที่เป็นเอกลักษณ์สู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ด้วยดีไซน์ผสมผสานระหว่างความเป็นอเมริกัน และวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ เปลี่ยนภาพโรงแรมในสายตาของคนไทย “แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” (Upside Down)

และปรากฏการณ์ที่สร้าง “ความแตกต่าง” ให้กับธุรกิจโรงแรมไทยในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือของ “เดอะสแตนดาร์ด” เป็นผู้บริหารโรงแรมระดับโลก สร้างชื่อเสียงทั้งในนิวยอร์ก, ลอนดอน, ไมอามี ฯลฯ จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์บูติกโฮเต็ลที่ดีที่สุดในโลกและเป็นที่นิยมของเหล่าเซเลบริตี้ อาทิ จัสติน บีเบอร์, มาดอนนา, บิยอนเซ และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่ในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย

โดยหลังจากที่ “แสนสิริ” ได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ 62% ของ Standard International เมื่อปี 2560 เดอะสแตนดาร์ด หัวหิน เป็นโรงแรมที่แสนสิริตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเอง 100% ด้วยเม็ดเงินกว่า 800 ล้านบาท ต่อจาก The Peri Hotel (เดอะ เภรี โฮเต็ล) ที่เขาใหญ่และหัวหิน ในช่วงก่อนหน้าและก้าวต่อไป คือ เดอะสแตนดาร์ด กรุงเทพ ที่ตึกมหานคร

“อุทัย อุทัยแสงสุข” ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุผลที่แสนสิริเป็นผู้ลงทุนทั้งหมดเอง เนื่องจากเห็นศักยภาพของพื้นที่ที่อยู่ในทำเลที่ดีมาก และเคยเป็นบ้านพักตากอากาศเดิมของราชนิกุลบนพื้นที่ 14 ไร่ มีภูมิทัศน์สวยงาม ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น เหมาะที่จะเป็นที่พักผ่อนของ “คนร่วมสมัย”

ขณะเดียวกัน “แสนสิริ” มองว่า ประเทศไทย พ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวในหัวเมืองใหญ่ใกล้กรุงเทพฯ จะฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะ “หัวหิน” ที่เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ข้อมูลจากการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า 5 เดือนจากนี้ (พ.ย. 2564-มี.ค. 2565) ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน และมีการใช้จ่ายเฉลี่ย 60,000 บาทต่อคน

“เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ที่ดีของนักท่องเที่ยวที่เคยได้จาก “เดอะสแตนดาร์ด” ทั่วโลก จะทำให้เราได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเป็นอย่างดี โดยในช่วงเดือนแรกคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าพัก 40-50% ของจำนวนห้องพัก และเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 60% ในปีหน้า ทำรายได้ประมาณ 400 ล้านบาทในปี 65 และคาดหวังว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 10 ปี”

ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ กล่าวว่าขณะเดียวกัน หากรวมรายได้เดอะเภรีอีก 2 แห่งน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาทในปี 65 ยังไม่นับรายได้จากส่วนแบ่งที่เราได้จากการบริหารโรงแรมทั่วโลกของเดอะสแตนดาร์ด แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักของ “แสนสิริ” ยังคงเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยปีนี้เราคาดจะมีรายได้สูงถึง 30,000 ล้านบาท

ส่วนใครที่กำลังต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ “บริพัตร หลุยเจริญ” กรรมการผู้จัดการบริษัท สแตนดาร์ด เอเชีย จำกัด ยืนยันว่า จะพบได้ที่เดอะสแตนดาร์ด หัวหิน

เริ่มจากการออกแบบที่คล้ายคลึงกับบ้านของแฟรงก์ ซินาตรา นักร้องระดับตำนานของสหรัฐฯ ผสมกับเดอะสแตนดาร์ด สปา ที่ชายหาดไมอามี ซึ่งเป็นรีสอร์ตที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยทั้ง 178 ห้อง และวิลล่า 21 หลัง จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้รู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน มีห้องอาหารที่พร้อมเสิร์ฟอาหารไทยและอิตาเลียนจากคอร์สที่คิดค้นขึ้นไม่เหมือนกับที่ไหน

รวมทั้ง 2 กิจกรรมสปาสุดประทับใจที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น ได้แก่ คลื่นเสียงบำบัด ผ่อนคลายจากเสียงก้องกังวานของขันที่สั่นสะเทือนมวลน้ำในร่างกายให้ธาตุไม่ดีตกตะกอน และการพอกโคลนสี จากประเทศแคริบเบียนตามธาตุของแต่ละบุคคล ซึ่งในช่วงเปิดใหม่เรามีโปรโมชันสุดพิเศษให้ลูกค้าที่สนใจเข้าพัก โดยหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.standardhotels.com

จากนั้นเมื่อลูกค้าเดินเข้าสู่โรงแรม และเห็นป้ายชื่อโรงแรมที่ “กลับหัวลง” ครั้งแรก นั่นแสดงว่า เรากำลังจะเริ่มต้นประสบการณ์ที่ “แตกต่างและประทับใจ” ไปด้วยกัน.

ประอร นพคุณ