ปตท.-ซีพีเอฟ-ไทยเบฟผงาด ติดอันดับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ต่อเนื่อง

ปตท.ติดอันดับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ “DJSI” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 พร้อมเดินหน้าธุรกิจสู่ความยั่งยืน มุ่งพัฒนาสู่สังคมคาร์บอน ขณะที่ซีพีเอฟติดอันดับดัชนีความยั่งยืน “DJSI” ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน ขณะที่ไทยเบฟได้รับคะแนนสูงสุดจากการประเมินด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นปีที่ 4 ต่อเนื่อง ตอกย้ำผู้นำองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลก

โดยนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ปี 64 นี้ ปตท.ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) กลุ่มดัชนีโลก (World Index) และดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนการยอมรับในระดับโลกถึงความมุ่งมั่นของ ปตท. ในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีธรรมาภิบาล คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตในอนาคต

อาณาจักร ปตท.ยั่งยืน

ทั้งนี้ ปตท.ยังพร้อมก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำผ่านการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน ฯลฯ และส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่สีเขียวเพื่อดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI อีกด้วย “DJSI จัดทำขึ้นโดย S&P Global ซึ่งถือเป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยการพิจารณาจากผลประกอบการที่ดี ควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล รวมทั้งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้กับผู้ลงทุนได้”

ซีพีเอฟนวัตกรรมอาหารปลอดภัย

ขณะที่นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และเป็น 1 ใน 3 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารประเภทตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) จากความโดดเด่นด้านการบริหารนวัตกรรม ด้านสุขภาพและโภชนาการ และด้านการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร สะท้อนความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัยด้วยความรับผิดชอบตามมาตรฐานสากลอย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของซีพีเอฟ ในการเป็นผู้นำสร้างความมั่นคงทางอาหารของโลกตามมาตรฐานสากลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมเกษตรแบบครบวงจร สร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใสและรับผิดชอบต่อสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ไทยเบฟเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความยั่งยืน

ด้านนายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า ไทยเบฟครองคะแนนสูงที่สุดในโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของโลก จากการประเมินด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในปีนี้เป็นปีที่ 4 ต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของประเภทกลุ่มดัชนีโลก เป็นปีที่ 5 และเป็นสมาชิกของกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่ 6 สะท้อนถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งขององค์กรต้นแบบในการดำเนินธุรกิจ ที่ใส่ใจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่นำความภาคภูมิใจของคนไทยไปสู่ระดับโลก ด้วยศักยภาพความพร้อมที่แข็งแกร่ง โดยไทยเบฟมุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการธุรกิจ และดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในการช่วยเหลือสังคม ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานใน 5 มิติหลัก คือ การศึกษา สาธารณสุข กีฬา ศิลปวัฒนธรรม และการพัฒนาชุมชน ที่ได้สร้างผลลัพธ์ความสำเร็จการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมและมีการติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยยังตระหนักถึงความสำคัญของหลักการบริหารจัดการและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทุกภาคส่วน ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักธรรมาภิบาล สอดคล้องกับจรรยาบรรณของบริษัทที่มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ มาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่จะบรรลุตามวิสัยทัศน์ขององค์กรได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ดัชนี DJSI เป็นหนึ่งในมาตรฐานสูงสุดสำหรับการประเมินความยั่งยืนองค์กรระดับโลก โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม.