นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การกู้เงินเสริมสภาพคล่องทางการเงินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามแผนฟื้นฟูนั้น คาดว่าจะต้องใช้เงินเพิ่มเติมอีก 25,000 ล้านบาทนั้น
ขณะนี้อาจไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินเสริมสภาพคล่องเต็มจำนวนตามที่ได้เสนอแผนฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากการบินไทยได้กลับมาบินอีกแล้ว และมีเงินหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจเองแล้ว ดังนั้น คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูการบินไทยต้องพิจารณารายละเอียดแผนการใช้เงินด้วยความรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การได้ประกาศขายเครื่องบินเพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ และเป็นการลดต้นทุนการดำเนินงานนั้น ขณะนี้ได้มีการตั้งประเด็นคำถามการขายทรัพย์สินของการบินไทยว่า เป็นไปตามเงื่อนไขและแผนการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ เนื่องจากไม่มีการแจกแจงรายละเอียดของการขายเปรียบเทียบราคาซื้อ ค่าเสื่อม และราคาขาย ณ ปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายกังขาในเรื่องของการขายทรัพย์สิน โดยเฉพาะการขายเครื่องบินให้เอกชน เพื่อไม่ให้เกิดคำครหาว่าการบินไทยซื้อเครื่องบินในราคาที่แพง แต่ขายในราคาที่ถูก
อย่างไรก็ตาม แม้การบินไทยไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว แต่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดังนั้นการดำเนินการใดๆก็ต้องทำอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และกระทรวงการคลังต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า เหตุใดจึงขายทรัพย์สินในราคาถูก ทั้งขายเครื่องบิน ขายที่ดิน ทั้งนี้ แม้การบินไทยจะมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเร่งขายทรัพย์สิน เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ หรือชำระหนี้ที่คงค้าง แต่การบินไทยต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ตามขั้นตอนอย่างโปร่งใส.