กลุ่มเซ็นทรัลเตรียม 3 แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังคลายล็อกดาวน์ หลังไทยยังต้องเผชิญการระบาดของโควิดที่ยังไม่แน่นอนว่าจะยุติลงเมื่อใด
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 64 นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยนั้นจะต้องทำควบคู่กับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ซึ่งเรามองว่าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ภาคธุรกิจและภาคบริการเดินหน้าต่อได้ แม้จะมีสัญญาณเชิงบวกด้านการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ไม่ว่าจะเป็นการกระจายวัคซีนที่มากขึ้น รวมถึงนโยบายเปิดประเทศ
แต่ทั้งนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลจึงได้วางแนวทางการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยการร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน ผนึกกำลังธุรกิจในเครือ ในการเป็น Central of Life เพื่อสนับสนุนตั้งแต่ระดับฐานราก SMEs คู่ค้า รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายของคนไทยและนักท่องเที่ยว ภายใต้กลยุทธ์ทั้ง 3 แนวทาง ประสานกันอย่างเข้มแข็งลงตัว
1. REDUCE : การสนับสนุนช่วยเหลือประคองธุรกิจ และการลดค่าใช้จ่าย วางแนวทางเพื่อให้ธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs สามารถประคองการดำเนินธุรกิจ ลดค่าครองชีพประชาชน อีกทั้งก่อให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
- ลดค่าเช่าพื้นที่ ในศูนย์การค้าตามความเหมาะสมให้กับคู่ค้ากว่า 15,000 ราย บนพื้นที่รวมกว่า 40,000 ตารางเมตรทั่วประเทศ
- ลดค่าครองชีพ ด้วยการจัดให้มีการลดราคาสินค้า กับแคมเปญ Hug Thais ของเซ็นทรัลพัฒนา และเซ็นทรัล รีเทล เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ชวนกิน ช็อป ใช้ เที่ยวที่ไทย
- ล็อกและลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ตรึงราคาประหยัด แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับทุกคน
2. REBUILD : ขับเคลื่อนกิจกรรมเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวและเดินหน้าต่อ คำนึงถึงกลไกสำคัญต่อการฟื้นฟู โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เน้นการสนับสนุนแหล่งเงินทุน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ พร้อมกับการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
- นำศักยภาพขององค์กรมาสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าชุมชน อาทิ ตลาดจริงใจ โดยท็อปส์, จัดให้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าชุมชนใน ไทวัสดุ และบ้านแอนด์บียอนด์ สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 840 ล้านบาท รวมกว่า 1,450 ชุมชน 35,000 ราย
- เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ด้วยการผนึกกำลังกับสถาบันการเงินชั้นนำ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้กับคู่ค้าและ SMEs ตั้งเป้ารวมกว่า 500,000 ราย เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
- กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศ และระบบเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการจัดแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ Shopcation Exclusive Privileges โดยร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการให้ส่วนลดร้านค้าและที่พักในกลุ่มเซ็นทรัล มอบให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทยในโครงการ Phuket Sand Box และ Samui plus
- เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขยายธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเติบโต เกิดการจ้างงานต่อเนื่อง โดยการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา (27 ต.ค. 64), ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อยุธยา (30 พ.ย. 64)
3. REINFORCE : เสริมกำลังด้วยการยกระดับพัฒนาศักยภาพ เพื่อแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพ มั่นคง และยั่งยืน ใช้ศักยภาพของทุกธุรกิจในกลุ่ม เพื่อเป็นแนวทางในการปรับกลยุทธ์แบบองค์รวม เพิ่มโอกาสภายใต้บริบทใหม่ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปและพร้อมที่จะก้าวนำภายใต้ความปลอดภัยในการดำรงชีวิต
- รองรับการใช้ชีวิตในวิถีใหม่ด้วยการใช้จุดแข็ง Omnichannel Platform ลูกค้าสามารถเข้าถึงการซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกสบายทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ มั่นใจ ปลอดภัย อาทิ Live Streaming, Chat and Shop, Drive-Thru, Pick-up เป็นต้น
- มุ่งบริการ Contactless Payment เช่น บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ที่มอบประสบการณ์การใช้จ่ายผ่านเครื่องชำระเงินระบบไร้สัมผัส หรือระบบ e-Payment ของ Dolfin Wallet
- ใช้ช่องทางการสื่อสารบนโลกออนไลน์ของกลุ่มเซ็นทรัล นำไปพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้กับ ชุมชน เกษตรกร ในการทำการสื่อสาร และเปิดช่องทางการจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ พร้อมอบรมให้เกษตรกรได้มีองค์ความรู้ใหม่ อาทิ JD Central หรือ Central Tham Market
- การต่อยอดให้สตาร์ทอัพเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่น เซ็นทรัล รีเทล จับมือกับ Mercular สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ด้านอีคอมเมิร์ซกลุ่มสินค้า Hobby & Lifestyle เพื่อเพิ่มช่องทาง New Retail ผ่านออมนิแชแนล แพลตฟอร์ม
ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน จะใช้เวลามากน้อยแตกต่างกันออกไปในแต่ละภาคธุรกิจ ซึ่งต้องอาศัยการสมัครสมานจากทุกภาคส่วนในการดำเนินงานอย่างตรงจุด ยืดหยุ่น และครบวงจร เพื่อนำพาประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤติโควิด.