สายการบินยุโรปแห่แบนหน้ากากผ้า บังคับใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ขึ้นเครื่อง

สายการบินฟินแอร์ ชี้ หน้ากากผ้าประสิทธิภาพในการป้องกันโรคติดต่อต่ำกว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สายการบินยักษ์ใหญ่ในยุโรปทยอยแบน

เว็บไซต์ ฟอร์จูน รายงาน สายการบินทั่วโลกได้เริ่มแบนการใส่หน้ากากผ้าขึ้นเครื่องบิน โดยระบุให้ผู้โดยสารสวมใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือหน้ากากอนามัย FFP2, KN95 และ N95 ที่ไม่มีวาล์ว สายการบินล่าสุดที่มีข้อบังคับห้ามผู้โดยสารใส่หน้ากากผ้าขึ้นเครื่องได้แก่ สายการบินฟินแอร์ (Finnair) ของฟินแลนด์ ที่ชี้ว่า หน้ากากผ้านั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคติดต่อต่ำกว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ 

ก่อนหน้านี้สายการบินยักษ์ใหญ่ของยุโรปได้เริ่มทยอยแบนหน้ากากผ้า และกำหนดให้ใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ได้แก่ สายการบินลุฟต์ฮันซา (Lufthansa), สวิสแอร์ (Swissair), แอร์ ฟรานซ์ (Air France) และโครเอเชีย แอร์ไลนส์ (Croatia Airlines) 

ส่วนสายการบินสัญชาติสหรัฐอเมริกา ยังไม่มีการแบนหน้ากากผ้า หรือบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ขึ้นเครื่อง แต่มีหน้ากากบางชนิดที่ห้ามใส่ขึ้นเครื่องได้แก่ การนำผ้าเช็ดหน้าและผ้าพันคอมาใช้เป็นหน้ากาก รวมถึงหน้ากากสำหรับเล่นสกีและหน้ากากคลุมหน้าก็ถูกห้ามใส่ขึ้นเครื่องบินเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันมีแนวโน้มว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเดินทางหลังจากนี้ 

ขณะที่สายการบินสัญชาติออสเตรเลียอย่าง แควนตัส (Qantas) และเวอร์จิน ออสเตรเลีย (Virgin Australia) ยังไม่มีการแบนหน้ากากผ้า

ถึงแม้ว่าหน้ากากผ้านับเป็นสินค้าขายดีในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีลวดลายที่สวยงาม สามารถซักทำความสะอาดได้ และสามารถหาซื้อได้ง่ายในช่วงที่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ขาดตลาด แต่หน้ากากผ้าแบบธรรมดานั้นไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อได้ดีเท่ากับฟิลเตอร์ในหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ 

ด้าน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ระบุว่า ประสิทธิภาพในการฟิลเตอร์ของหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้านั้นต่ำกว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ซึ่งหน้ากากผ้านั้นสามารถป้องกันได้ระดับหนึ่งหากได้รับการออกแบบที่ดีและใช้อย่างถูกต้อง. 

ที่มา: Fortune, Executivetraveller