เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน ค่าขนส่งพุ่งสูง ส่งผลให้สินค้าไอทีต้องปรับราคาขึ้น Brother ยืนยันยังไม่ขึ้นราคาสินค้า
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.64 นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Brother กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจไอทีทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบ จนทำให้ต้องปรับราคาขายเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ บราเดอร์ ยังคงเลือกที่จะคงราคาขายไว้เพื่อให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าของบริษัทในราคาเดิม เพราะผู้บริโภคได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่ายอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาสแรกของปี 2564 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14.13 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90.5% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 18 ปี และจะเพิ่มขึ้นตลอดปี 64
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้หลายค่ายไอทีต้องปรับเพิ่มราคา คือ ต้นทุนชิ้นส่วนที่ปรับราคาสูงขึ้นเนื่องจากการขาดแคลนบางชิ้นส่วน เช่น เซมิคอนดักเตอร์ที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด รวมถึงปัญหาด้านการขนส่ง เพราะปัจจุบันตู้คอนเทนเนอร์ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทั้งยังมีการปรับเพิ่มค่าระวางที่สูงขึ้น และที่สำคัญคือผลกระทบจากภาวะค่าเงินบาทอ่อนตัวทำให้ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 5-6% โดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ มาโดยตลอด ทำให้ ณ ปัจจุบันแม้เกิดปัจจัยที่กระทบต่อโครงสร้างต้นทุน ยังรับมือกับสถานการณ์ได้เพื่อไม่ให้เป็นการผลักภาระสู่ผู้บริโภค เพื่อให้สินค้าเข้าไปมีส่วนช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินชีวิตและดำเนินธุรกิจได้อย่างดีที่สุด ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด