“พิพัฒน์” ผนึกผู้ว่าการ ททท.แถลงไทม์ไลน์เปิดประเทศใน 120 วัน ด้าน ศบค.อนุมัติเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” 1 ก.ค.นี้แน่ ยอมให้คนไทยจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้าได้ด้วย แต่ยังไม่ให้เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ พร้อมอนุมัติเพิ่มเปิดเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เริ่ม 15 ก.ค.นี้ ขณะที่นายกฯลั่น แผน 120 วัน พื้นที่ใดพร้อม หรือมีคนติดเชื้อไม่เกิน 20–30 ราย ให้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อนได้เลย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวร่วมกับนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) “เดินหน้าเตรียมพร้อมเปิดประเทศ Moving Forward to Reopen Thailand” ว่า จากเมื่อ 2-3 วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีนโยบายให้เดินหน้าเปิดประเทศไทย ทั้งประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว ภายใน 120 วัน คงเป็นเพราะนายกฯมั่นใจว่าก่อน 120 วัน หรือก่อนเดือน ต.ค.นี้ คนไทย 50 ล้านคน จะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกแล้ว ไม่เช่นนั้นจะเปิดประเทศไม่ได้ และถ้าเป็น
แอสตราเซเนกา ฉีดเพียงเข็มแรกก็สร้างภูมิคุ้มกันได้ถึง 80% ถ้าเป็นซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ระยะการฉีดเข็มแรกและเข็มที่ 2 ก็ใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์
“ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายกฯได้พูดว่าแนวทางเปิดประเทศใน 120 วัน หมายความว่า ใน 77 จังหวัด หากจังหวัดใดพร้อม มีคนติดเชื้อไม่เกิน 20-30 รายให้เปิดได้ก่อนเลย ส่วนกรุงเทพฯ หากในเดือน ต.ค.ยังมีผู้ติดเชื้อ 500-600 ราย ยังไม่เปิดก็ได้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ ตัดสินใจ ซึ่งการประกาศดังกล่าวของนายกฯได้ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวเกิดแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์”
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า นายพิพัฒน์สั่งให้ ททท.ปรับเร่งไทม์ไลน์ การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวให้เร็วขึ้น และสอดคล้องกับนโยบายของนายกฯ จากเดิมที่จะมีพื้นที่นำร่องในปี 64 เพียง 10 จังหวัดและเปิดทั้งประเทศในปี 65 โดยในช่วงแรกจะเริ่มต้นจากพื้นที่เกาะก่อน ส่วนพื้นที่อื่นตามที่วางแผนไว้ จะเร่งให้เร็วขึ้น
ขณะที่ผลการประชุม ศบค.ได้อนุมัติตามข้อเสนอให้เปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว เข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 22 มิ.ย.นี้ ขณะเดียวกัน ศบค.เห็นชอบในหลักการให้ 3 เกาะใน จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และ เกาะเต่า เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยให้เที่ยวในเส้นทางที่กำหนดเฉพาะ (Sealed routes) ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.นี้เป็นต้นไป
“ในระยะแรกยังห้ามเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ในภูเก็ต ส่วนการจำหน่ายสุราในร้านอาหาร ศบค.ก็คุยกัน และเห็นว่า ภูเก็ตอยู่ในกลุ่มสีเหลือง พื้นที่เฝ้าระวังสูง ไม่มีข้อห้ามจำหน่าย และดื่มสุราในร้านอาหารอยู่แล้ว แต่ตรงนี้ขอดู มติ ศบค.อย่างเป็นทางการก่อน”
สำหรับผู้เดินทางเข้าภูเก็ต ต้องมาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ-ปานกลาง ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 14 วันขึ้นไป ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิดมาแล้ว เหมือนใส่ชุดป้องกันมาแล้ว 3 ชั้น และเมื่อถึงไทย ต้องถูกตรวจซ้ำอีก ต้องเข้าพักโรงแรมที่ได้มาตรฐานการท่องเที่ยวและสุขอนามัย หรือ Sha+ เท่านั้น โดยจะต้องอยู่ภูเก็ตครบ 14 วัน จึงจะเดินทางไปจังหวัดอื่นได้ ซึ่งกรณีอยู่ 14 วันจะถูกตรวจหาเชื้อโควิดรวม 3 ครั้ง โดย ททท. กำลังหารือกันว่า รัฐบาลจะออกค่าใช้จ่ายให้ได้หรือไม่ แต่หากอยู่ไม่ครบ 14 วันแล้วต้องการเดินทางกลับประเทศต้นทาง หรือไปประเทศที่ 3 ก็ทำได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นเที่ยวบินตรงออกนอกประเทศจากสนามบินภูเก็ตเท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้ที่มาเที่ยวเกาะภูเก็ต สามารถนั่งเรือไปเกาะในพื้นที่ภูเก็ต เช่น เกาะเฮ เกาะไม้ท่อนได้ แต่การนั่งเรือไปเกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล ซึ่งอยู่ จ.กระบี่ รวมถึงเขาหลัก เกาะ ยาว จ.พังงา คงต้องรอในเดือน ส.ค.ก่อน
ส่วนเกาะสมุย ที่จะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยววันที่ 15 ก.ค.นี้ รูปแบบจะไม่เหมือนที่ภูเก็ต เพราะใน 3 วันแรก ออกนอกห้องพักได้ แต่ยังต้องอยู่ในพื้นที่ของโรงแรม จากนั้นวันที่ 4-7 สามารถออกท่องเที่ยวได้ แต่ต้องอยู่ภายในพื้นที่เกาะสมุย จนพ้นวันที่ 8 จึงจะนั่งเรือข้ามไปเกาะพะงัน และเกาะเต่าได้ และเมื่อครบ 14 วัน จึงจะออกไปจังหวัดอื่นได้ โดยต้องตรวจหาเชื้อโควิดรวม 3 ครั้ง.