นายพรพล เอกอรรถพร ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (ศ.ศ.ป.) หรือ SACICT เปิดเผยถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์หัตถศิลปกรรมไทยว่า ในเดือนเม.ย.64 มีมูลค่า 19,834.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.91% เทียบกับเดือน เม.ย.63 สอดคล้องกับการส่งออกภาพรวมของไทยจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากหลายประเทศเริ่มคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเคลื่อนไหวดีขึ้น ส่วนในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) มูลค่า 78,548.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.46% จากช่วงเดียวกันของปี 63
“สินค้าหัตถศิลปกรรมไทย ยังมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น จากการที่เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย มีการเติบโตดีขึ้น จากการคลายล็อกดาวน์ และเริ่มมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจ และมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน สินค้าหัตถศิลปกรรมหลายๆ รายการมีความต้องการเพิ่มขึ้น หลังจากที่คนกักตัวอยู่บ้านและทำงานที่บ้านทำให้มีความต้องการสินค้าตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น เช่น เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ส่วนสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี และมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องประดับแท้ทำด้วยทอง เครื่องประดับแท้ทำด้วยโลหะมีค่าอื่นๆ ผ้าปักและผ้าลูกไม้ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ และกรอบรูปไม้”
สำหรับสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย.63 เช่น กลุ่มเครื่องเงิน เครื่องทอง 9,048.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.42% จากการเพิ่มขึ้นของเครื่องประดับแท้ทำด้วยเงินและทอง เครื่องประดับอัญมณีเทียม อัญมณีสังเคราะห์ และโลหะมีค่าและของที่หุ้มด้วยโลหะมีค่าอื่นๆ รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์หัตถกรรม 5,637.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.9% จากการเพิ่มขึ้นของเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องใช้สำหรับเดินทาง รองเท้าหนัง ถุงมือหนัง ของใช้ในเทศกาลและงานรื่นเริง กรอบรูปไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผ้าทอมือ 4,684.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.31% เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูปทำจากฝ้าย เสื้อผ้าสำเร็จรูปทำจากวัตถุทออื่นๆ ผ้าผืนทำจากฝ้าย เคหะสิ่งทอ ผ้าผืนทำจากวัตถุทออื่นๆรวมทั้งเซรามิกเพิ่มขึ้น 42.83% สินค้าที่ส่งออกได้ดี เช่น ถ้วยชามเซรามิก และของชำร่วยและเครื่องประดับ.