วิกฤติไทยแอร์เอเชีย หวังเงินกู้ซอฟต์โลนของรัฐ ต่อลมหายใจสายการบิน

โควิดระบาดระลอกใหม่ทำทรุด ส่องวิกฤติ "ไทยแอร์เอเชีย" หวังเงินกู้ซอฟต์โลนของรัฐบาล ต่อลมหายใจสายการบิน

แหล่งข่าวจาก บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV สายการบินไทยแอร์เอเชีย ออกมาระบุว่า ในวันนี้ (18 ม.ค.64) ทางบริษัทจะมีการเรียกพนักงานประชุมเพื่อหาแนวทางการทำธุรกิจช่วงการระบาดของโควิดระลอกใหม่

โดยแหล่งข่าวระบุว่า ผู้บริหารจะไม่ปรับลดพนักงาน หรือเลิกจ้างพนักงานแต่จะขอความร่วมมือให้พนักงานลดจำนวนวันทำงานลง ภายใต้โครงการลาหยุดไม่รับเงินเดือน หรือ Leave Without pay เป็นเวลา 2-4 เดือน ตั้งแต่เดือนก.พ.นี้

ก่อนหน้านี้ ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร AAV เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทมีสภาพคล่องอยู่ได้ถึงเดือนมี.ค. 64 ฉะนั้นบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมขอวงเงินกู้จากธนาคาร และทำการเพิ่มทุน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทภายใน 1-2 เดือนนี้

ขณะที่การดำเนินการขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน จากภาครัฐไม่มีความคืบหน้า โดยได้ลดวงเงินจาก 2.4 หมื่นล้านบาทมาที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำเงินมาช่วยด้านเงินเดือนพนักงานของ 6 สายการบิน ตั้งแต่ธ.ค. 63-ธ.ค.64 แต่ขณะนี้คาดว่าหมดหวังแล้ว ทั้งนี้ กลุ่มสายการบินได้ยื่นขอซอฟต์โลนจากภาครัฐมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 63

แหล่งข่าวจากแวดวงการสายการบินแห่งหนึ่ง เปิดเผยกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ว่า ตั้งแต่มีโควิดระบาดระลอกใหม่ทำให้การเดินทางในประเทศต้องหยุดชะงักอีกครั้ง ซึ่งช่วงเดือนพ.ย- ธ.ค. 63 เป็นช่วงไฮซีซั่นจะมีการเดินทางท่องเที่ยวเกิดขึ้น สายการบินในประเทศหลายๆ เจ้าก็พอชื่นใจได้บ้าง แต่พอมีโควิดระบาดในประเทศอีกรอบ ทำให้สายการบินต้องปรับเปลี่ยนเวลา และเส้นทางการบินไปโดยปริยาย

"ตอนนี้เส้นทางบินไปภาคเหนือน้อยมาก เที่ยวบินหนึ่งมีผู้โดยสารไม่ถึง 20 คนทำให้สายการบินต้องปรับเวลาการเดินทาง ลดจำนวนเที่ยวบิน ส่วนเส้นทางบินไปภาคใต้ เช่น หาดใหญ่ และภูเก็ตก็มีผู้โดยสารอยู่พอสมควร คาดว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้อยู่ สายการบินหลายๆ แห่งอาจจะมีปรับลดเวลาการทำงานของพนักงาน ปรับลดเงินเดือน รวมไปถึงปลดพนักงานออกเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว"

อย่างไรก็ตาม สายการบินหลายเจ้าๆ พยายามหาแหล่งเงินกู้ หรือเงินทุนเข้ามาร่วมลงทุน แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยเลยสักนิด ความคาดหวังที่จะขอกู้เงินซอฟต์โลนของรัฐบาลก็ดูริบหรี่ ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการขอเอกสารเพิ่มเติมไปตรวจสอบหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เชื่อว่าปรากฏการณ์ของไทยแอร์เอเชียในวันนี้ ไม่แน่ว่าจะมีสายการบินอื่นๆ ตามมาอีกไม่นาน เพราะทุกคนก็ต้องแบกรับต้นทุนที่เกิดขึ้น ซึ่งยังไม่เห็นช่องทางที่จะช่วยพยุงธุรกิจให้เดินต่อไปได้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 17 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา ตัวแทน 7 สายการบินสัญชาติไทย ประกอบด้วย สายการบินไทยสมายล์, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, นกแอร์, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยเวียตเจ็ท และไทยไลอ้อนแอร์ ได้เข้าพบ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้าการขอให้รัฐบาลช่วย เยียวยาสายการบิน หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะการขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ซึ่งทราบว่ากระทรวงการคลังมอบให้ธนาคารออมสินดำเนินการแล้ว แต่ติดปัญหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน (7 สายการบินทวงรัฐบาลช่วยเยียวยา หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19)