ประเทศไทยศูนย์กลางผลิตนมส่งออกแห่ง “อาเซียน”

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ประเทศไทยศูนย์กลางผลิตนมส่งออกแห่ง “อาเซียน”

Date Time: 7 ม.ค. 2564 08:15 น.

Summary

  • นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกดาวรุ่งของไทย โดยปีที่ผ่านมามีการพัฒนาและปรับตัวได้ดี

Latest

เปิดอินไซต์ คนไทย #ติดแกลม เมื่อคนต่างเจน มองคำว่า "หรูหรา" ไม่เหมือนกัน ?

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกดาวรุ่งของไทย โดยปีที่ผ่านมามีการพัฒนาและปรับตัวได้ดีท่ามกลางกระแสการค้าโลกที่มีความท้าทายสูง เมื่อเดือน ม.ค.-พ.ย.2563 ส่งออกได้สูงถึง 516.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยสัดส่วนสูงถึง 94.7% เป็นการส่งออกไปประเทศคู่ค้าที่มีความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) มูลค่า 488.9 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 6% โดยอาเซียนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่ง สัดส่วน 84.5% ตามด้วยจีน 4.4% ฮ่องกง 4% สินค้าส่งออกสำคัญ คือ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต นมยูเอชที นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้น คือ อุตสาหกรรมมีศักยภาพในการผลิตและมีคุณภาพที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ทำให้สินค้าจากไทยเป็นที่นิยมและไทยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมนมในอาเซียนได้ เพราะในรอบ 11 เดือนปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้าดังกล่าวไปอาเซียน 436.2 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 7% และขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด เช่น กัมพูชา 153.7 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 1.5%, ฟิลิปปินส์ 72.1 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 13.2%, ลาว 63 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 9.2%, สิงคโปร์ 54 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 16.1% “

ทั้งนี้ เอฟทีเอ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งภายใต้เอฟทีเอของไทยที่มีผลบังคับใช้แล้ว 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ อาทิ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และฮ่องกงนั้น มี 14 ประเทศยกเว้นเก็บภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้จากไทยแล้ว เช่น อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ส่วนอีก 4 ประเทศได้ลดภาษีนำเข้าให้บางส่วน แต่ยังเก็บภาษีนำเข้าในบางสินค้า เช่นเกาหลีใต้ เก็บภาษีนำเข้านม ครีมจืด และโยเกิร์ตที่ 28.8%, อินเดีย ไม่เก็บภาษีนำเข้านมเปรี้ยวและโยเกิร์ต แต่เก็บภาษีนำเข้านมที่ 20-60% เป็นต้น

“กรมให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของเกษตรกรและผู้ประกอบการโคนมไทยและได้ทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์ เพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจในการปรับตัวและเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในโลกการค้าเสรีให้กับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการโคนมไทยก้าวไกล ขยายการส่งออกได้ด้วยเอฟทีเอ โดยจะจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ระหว่างผู้ประกอบการโคนมไทยกับผู้นำเข้า ผู้กระจายสินค้า ผู้แทนห้างค้าส่ง/ค้าปลีกในตลาดจีน”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ