การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานดีเซล

ความสับสนที่เกิดจาก การประกาศเปลี่ยนแปลงมาตรฐานกำหนดค่าของน้ำมันดีเซล ในประเทศไทย ของ กระทรวงพลังงาน ให้น้ำมันดีเซล ชนิดบี 10 เป็นน้ำมันดีเซลมาตรฐานที่ใช้ในรถยนต์ที่ใช้นํ้ามันดีเซลทั่วไป และน้ำมันดีเซลที่เคยใช้เป็นประจำ เปลี่ยนชื่อเป็น น้ำมันดีเซล บี 7 ชาวบ้านเกิดความงุนงงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น มีความแตกต่างกันอย่างไร และสามารถจะใช้กับรถประเภทใดได้บ้าง

มีคำอธิบายจาก กระทรวงพลังงาน อย่างแรกเลย บี 10 เป็นน้ำมันดีเซล หรือดีเซลทั่วไป ใช้แทน บี 7 ที่เคยใช้กันอยู่ ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน มีนโยบายให้เกิดการใช้ประโยชน์จากผลผลิตทางการเกษตร ให้มากขึ้น โดยเฉพาะ ปาล์มน้ำมัน ที่ล้นตลาด ราคาตกต่ำ เป็นการสร้างสมดุลปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ให้เกิดความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นปาล์มที่ใช้เกี่ยวกับด้านพลังงานและปาล์มที่ใช้เพื่อการบริโภค

บี 10 ที่ว่านี้ เป็นดีเซลที่เพิ่ม ไบโอดีเซล จากปาล์มน้ำมันเข้าไปในน้ำมันดีเซล สัดส่วนร้อยละ 10 จากเดิมมีเพียงร้อยละ 7 ใน บี 7 ส่งผลให้มีการใช้ปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น และในด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ช่วยลดมลพิษ ลดฝุ่น PM 2.5 ได้มากขึ้นด้วย เนื่องจากมีการ ใช้พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพในสัดส่วนที่มากขึ้นนั่นเอง

มีคำถามสำคัญเรื่องของคุณภาพของน้ำมันดีเซลทั้ง 2 ชนิด ทั่วไปแล้ว รถยนต์และเครื่องยนต์ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2010 ขึ้นไป ได้รับการยืนยันจากค่ายรถยนต์ว่าสามารถใช้บี 10 ได้

อย่างไรก็ตาม บี 7 ก็ยังมีใช้อยู่ทั่วไป เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับ รถยนต์รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถใช้ บี 10 ได้ ส่วนรถบรรทุกขนาดใหญ่ มีน้ำมัน บี 20 ให้ใช้ได้ตามปกติ

เพื่อให้เกิดความแน่ใจสามารถที่จะตรวจสอบรุ่นรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันดีเซลชนิดต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่เป็นอันตรายกับเครื่องยนต์ได้จาก ค่ายรถยนต์ หรือดูจากเว็บไซต์กรมธุรกิจพลังงาน www.doeb.go.th 

ในส่วนของเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันไม่ต้องเข้าสู่วงจรราคาตกต่ำอีกต่อไป เห็นได้ว่าราคาปาล์มน้ำมันขยับขึ้นมาสูงกว่าราคาประกันที่ กก.ละ 4 บาทไปแล้ว กระทรวงพลังงานคาดว่าจะช่วยดูดซับปาล์มน้ำมันดิบได้ประมาณปีละ 2.2 ล้านตัน

นอกจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยังได้รับซื้อนํ้ามันปาล์มดิบอีก 3.6 แสนตัน ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินอีก 3 แสนตัน ภายในปี 2564 ทั้งหมดนี้ เป็นผลพวงที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานน้ำมันดีเซล ที่ได้ประโยชน์ทั้งเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมของประเทศ

ระยะแรกๆอาจสร้างความสับสนและความไม่สะดวกให้กับผู้บริโภคพอสมควร แต่ในระยะยาวแล้ว จะเกิดประโยชน์กับ การใช้พลังงานของประเทศอย่างยั่งยืน เข้าสู่ยุควิถีใหม่ของแผนนโยบายพลังงานของประเทศ

ประหยัด ลดมลพิษ คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th