Thankyou ออกแคมเปญชวนทุกคนช่วยกันหยุดภาวะยากจนขั้นรุนแรงผ่านความร่วมมือจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ พี แอนด์ จี และ ยูนิลีเวอร์
วิสาหกิจเพื่อสังคมในออสเตรเลีย หรือ Thankyou ได้ประกาศเชิญชวน พี แอนด์ จี (P&G) และ ยูนิลีเวอร์ (Unilever) สองบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ระดับโลก เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตและกระจายสินค้าของ Thankyou ไปทั่วโลก เพื่อร่วมมือยุติภาวะความยากจนขั้นสุด
นอกจากนี้ Thankyou ได้เชิญชวนผู้คนทั่วโลกให้เข้ามามีส่วนร่วมและแสดงพลังอันเหนียวแน่นของกลุ่มคนมากมาย ที่เชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลงผ่านแคมเปญที่ชื่อว่า No Small Plan เพื่อโน้มน้าวใจบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ให้สนับสนุนการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ โดย Thankyou นำเสนอสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายไปจนถึงของใช้สำหรับเด็ก โดยมีวัตถุประสงค์อันแน่วแน่ในการจัดหาเงินทุนให้กับโครงการที่เปลี่ยนแปลงชีวิตอีกมากมาย
ทั้งนี้ ดเนียล ฟลินน์, จัสทีน ฟลินน์ และ จาร์ริด เบิร์นส์ 3 ผู้ก่อตั้ง Thankyou กล่าวว่า ขณะที่ผู้คนใช้จ่ายไปกับสินค้าอุปโภคบริโภคด้วยเงิน 63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละปี ก็ยังมีผู้คนอีก 736 ล้านคนที่ต้องจมปลักอยู่กับความยากจน
โดยเราเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจตามปกติมันไม่ปกติเลย แต่เรายังเชื่อมั่นว่าหากเราทุกคนร่วมมือกัน ทั้งผู้คนมากมายและบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ของโลก เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงความยากจนข้นแค้นนี้ได้ โดยการระดมเม็ดเงินที่ใช้จ่ายไปกับสินค้าดังกล่าวไปช่วยยุติภาวะยากจนขั้นรุนแรงนี้
ปัจจุบัน Thankyou วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ แค่ที่อออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เท่านั้น ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้ตัวเลขความยากจนทั่วโลกเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เช่น เจลล้างมือ
เราจึงตระหนักว่าถึงเวลาแล้วสำหรับการขยายธุรกิจ และต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วย ทั้งนี้หาก P&G และ Unilever เลือกตอบรับคำเชิญของ Thankyou พวกเขาอาจพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และกำหนดเส้นทางของเม็ดเงินผู้บริโภคหลายล้านดอลลาร์เพื่อยุติความยากจนขั้นรุนแรง
ในส่วนของการจูงใจให้ พี แอนด์ จี และ ยูนิลีเวอร์ ตอบรับคำเชิญว่า "I’m in" และร่วมงานกับ Thankyou เพื่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ Thankyou เชื่อว่าสองบริษัทยักษ์ใหญ่ควรได้รับรู้ถึงเสียงส่วนรวม ที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่จากผู้คนทั่วโลกที่มารวมตัวเคลื่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน เพื่อยุติภาวะความยากจนขั้นสุด
อย่างไรก็ตาม Thankyou จัดตั้งขึ้นเพื่ออุดช่องว่างระหว่างประชากรกว่า 736 ล้านคน ทั่วโลกที่ต้องประสบความยากจนข้นแค้น และเม็ดเงิน 63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ใช้จ่ายไปกับสินค้าอุปโภคบริโภคในแต่ละปี โดย Thankyou จะนำผลตอบแทนทุกบาททุกสตางค์ หลังจากหักต้นทุนทั้งหมดในการดำเนินการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคคุณภาพเยี่ยมให้แก่ผู้คน เพื่อการยุติภาวะยากจนขั้นรุนแรงอีกด้วย