นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ได้ออกแคมเปญ “ไม่มีไฟลท์บิน ก็ช้อปได้” โดยประชาชนสามารถซื้อสินค้าทั้งสินค้าดิวตี้ ฟรี และไม่ใช่ดิวตี้ ฟรี ได้ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ตนั้น กขค.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นการกระทำใดที่ขัดต่อ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 หรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่ากรณีคิง เพาเวอร์ ขายสินค้าในดิวตี้ฟรี เป็นสินค้าที่ไม่รวมภาษีนั้น มีกฎหมายเฉพาะ คือ กฎหมายกรมศุลกากร หากนำมาขายให้ประชาชนทั่วไป โดยไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ผิดกฎหมายกรมศุลกากรหรือไม่ มีเหตุผลจำเป็นมากแค่ไหน
“กรณีคิง เพาเวอร์ ออกแคมเปญดังกล่าวคงต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่าทำไมถึงทำได้ และกล้าทำ และเหตุใดไม่มีผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายอื่นๆ มายื่นร้องเรียน หรือทำระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น และกฎหมายมีข้อยกเว้นหรือไม่ รวมถึงต้องดูว่าเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายแข่งขันทางการค้าหรือไม่”
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามกฎหมายแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 เบื้องต้นอาจเข้าข่ายการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เพราะขายสินค้าในดิวตี้ฟรี ที่ไม่เสียภาษี ราคาถูกกว่าการขายผ่านห้างสรรพสินค้า ที่ต้องเสียภาษี แม้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ แต่ทำให้คู่แข่งเสียเปรียบ ซึ่งห้างสรรพสินค้า สามารถร้องเรียนมาได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า “เบื้องต้นเห็นว่าพฤติกรรมนี้ อาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 มาตรา 57 เรื่องการค้าที่ไม่เป็นธรรม มีโทษปรับทางปกครอง 10% ของรายได้ในปีที่กระทำผิด และ กขค.สามารถสั่งหยุดพฤติกรรมได้ หากตรวจพบว่าส่งผลเสียหายต่อตลาดอย่างรุนแรง หากไม่หยุดพฤติกรรม ก็จะเข้าข่ายผิดมาตรา 60 มีโทษปรับเป็นรายวันจนกว่าจะหยุดพฤติกรรม”.