กนอ.เตรียมเสนอบอร์ด กนอ.ชี้ขาดพื้นที่ที่มีศักยภาพรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจแห่งอนาคต โดยเป็นพื้นที่บนบกทั้ง 2 แห่ง ตัดพื้นที่ที่ต้องถมทะเล ถอดชนวนการถูกต่อต้านออกไป แม้ว่า “เอ็กซอน โมบิล” โยนผ้าขาวประกาศชะลอลงทุนปิโตรเคมี 2.9 แสนล้านบาท ในพื้นที่ออกไป ไม่มีกำหนด
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.เตรียมที่จะเสนอให้คณะกรรมการบริหาร กนอ. (บอร์ด กนอ.) เพื่อให้เห็นชอบพื้นที่ที่เหมาะสมหรือมีศักยภาพ สำหรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยยอมรับว่า ขณะนี้ มีพื้นที่เหมาะสมบนบก 2 แห่ง จากทั้งหมด 4 แห่งที่มีศักยภาพ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบอร์ด กนอ.ว่าจะพิจารณาพื้นที่ใดเป็นสำคัญ โดยพื้นที่ดังกล่าวส่วนหนึ่ง จะเป็นการพัฒนาเพื่อเป็นการรองรับการลงทุน ให้กับบริษัท เอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันจากสหรัฐฯที่สนใจลงทุนปิโตรเคมีส่วนต่อขยาย จากพื้นที่เดิม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี บริเวณท่าเรือแหลมฉบังในอนาคต
“แม้ว่า ล่าสุดเอ็กซอนฯได้แจ้งขอชะลอการลงทุนที่มีมูลค่า 290,000 ล้านบาท ในพื้นที่ดังกล่าวออกไปแบบไม่มีกำหนด แต่ กนอ.ก็ต้องเตรียมพื้นที่ไว้เพื่อพัฒนารองรับการลงทุนเอาไว้สำหรับโครงการของนักลงทุนรายอื่นๆเช่นกัน ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curv) โดยจะเสนอบอร์ด กนอ.ให้พิจารณาเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งล่าสุดได้ตัดออกไป 2 พื้นที่แล้วเพราะเป็นพื้นที่ถมทะเล เพราะพบว่ามีปัญหาในเรื่องระบบท่อน้ำมัน ที่ขวางพื้นที่ในทะเลเป็นระยะทางยาว จึงเหลือพื้นที่บนบก ที่เหมาะสมที่สุด เพราะขั้นตอนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมจะดำเนินการได้ง่าย”
สำหรับพื้นที่ที่มีศักยภาพบนบก ได้แก่พื้นที่ที่ 1.พื้นที่บนบกเนื้อที่ 1,200 ไร่มีผู้เช่าพื้นที่รวม 7 ราย (14 แปลง) เป็นคลังสินค้า ลานจอดรถยนต์และรถบรรทุก เพื่อการส่งออกและอู่ต่อเรือ และมีสิทธิการเช่าเหลือ 1-15 ปี 2.พื้นที่ชุมชนและพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งประกอบไปด้วยชุมชนกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ และแทรกตัวอยู่ระหว่างโรงกลั่นน้ำมันและระหว่างคลังน้ำมัน และคลังก๊าซธรรมชาติ เนื้อที่รวม 5,000 ไร่
ทั้งนี้ ในส่วนพื้นที่ที่ถูกตัดออกไป ได้แก่ พื้นที่ถมทะเลในบริเวณเขาบ่อยาและเขาภูไบ ด้านทิศเหนือของท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบัง จากเดิมกำหนดให้มีพื้นที่เป้าหมายในการถมทะเล 2,534 ไร่ จากแผนงานเดิมที่ในระยะที่ 1 จะถมทะเลรวม 2,000 ไร่ เป็นต้น
ล่าสุด กนอ.ได้ลงนามบันทึกตามสัญญาจ้างงานปักเสา พาดสายไฟฟ้าแรงสูงในนิคมอุตสาหกรรม ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา ระยะที่ 1 กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อทำให้ประเทศ ไทย เป็นศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน โดยนิคมอุตสาหกรรมสงขลามีพื้นที่ 927 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ระยะได้แก่ ระยะที่ 1 พื้นที่ 629 ไร่ ปัจจุบันการก่อสร้าง มีความคืบหน้าแล้ว 70% คาดว่าจะเสร็จในปีนี้ ขณะนี้มีผู้สนใจเข้ามาลงทุน 6 ราย และได้ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินแล้ว 1 ราย จำนวน 30 ไร่
นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า กนอ.ได้ดำเนินการก่อสร้างขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูง 33 กิโลโวลต์ จากภายนอกมายังพื้นที่โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา ระยะที่ 1 รวม 7.4 กิโลเมตร มูลค่าวงเงินการก่อสร้าง 35.5 ล้านบาท โดยการดำเนินงานดังกล่าวเพื่อสนับสนุนให้มีการพัฒนาทางด้านธุรกิจอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นการพัฒนาประเทศ ให้มีความเติบโตเพิ่มมากขึ้น และสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ในเดือน พ.ย.นี้ เมื่อนิคมฯก่อสร้างแล้วเสร็จ กฟภ.ก็จะจ่ายไฟฟ้าให้ได้รวม 25 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ โครงการฯจะทำให้นิคมฯสงขลา มีระบบไฟฟ้าแรงสูง สามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับโรงงานในพื้นที่ ได้อย่างมีศักยภาพ.