ท่องเที่ยวกระอักจ่อก่อม็อบร้องรัฐช่วย ชง 5 มาตรการพลิกฟื้นชีวิตธุรกิจ-ลูกจ้าง

นายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือว่าหนักมากกระทบไปทั้งโลก เชื่อว่าจะกระทบตลอดทั้งปีนี้ ทุกองคาพยพในธุรกิจท่องเที่ยวจะตายหมดแล้ว ทั้งธุรกิจที่นำคนต่างชาติมาเที่ยวไทย และธุรกิจนำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ โรงแรม รถรับจ้าง ร้านอาหาร ย่ำแย่กันหมด แต่รัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม สินเชื่อ 123,000 ล้านบาทที่เข้า ครม. ก็กู้จริงไม่ได้ เพราะเมื่อไปคุยกับบรรษัทอุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ก็บอกแต่ว่ายังไม่มีคำสั่งจากผู้ใหญ่มา ดังนั้น หากสัปดาห์หน้าไม่มีมาตรการมาช่วยคนในอุตสาหกรรมนี้ คงต้องรวมตัวเป็นม็อบไปร้องเรียนรัฐบาล

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การประชุม ครม. วันที่ 3 มี.ค.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและผู้ประกอบการได้จัดทำข้อเสนอมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 5 มาตรการ คือ 1.เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการท่องเที่ยว เช่น ผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นชั่วคราวและลดดอกเบี้ยลงจากสัญญาเดิม พร้อมหาสินเชื่อวงเงินใหม่เสริมสภาพคล่องดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟโลน) เป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน เช่น เงินเดือนพนักงาน และขอให้ผ่อนปรนเกณฑ์พิจารณาสินเชื่อ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้รวดเร็วขึ้น

2.ช่วยเหลือลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ผ่อนปรนชำระหนี้เงินต้นสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นสำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเป็นเวลา 1 ปี และลดดอกเบี้ยหรือแปลงหนี้เดิมเป็นสินเชื่อใหม่ผ่อนชำระ 5-8 ปี พร้อมลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 60% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สูงสุด 1 ปี และจัดหาสินเชื่อบุคคลใหม่ 200,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ย 14% ต่อปี ให้มัคคุเทศก์ คนขับรถรับจ้าง

3. มาตรการภาษีเพื่อพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ ขยายเวลาชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลและให้ผ่อนชำระภาษีได้ 6 เดือน, ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา โดยนำค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวในประเทศไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ในวงเงินและเวลาตามที่คลังกำหนด และให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงให้รถขนส่งในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 4.บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายเพื่อจูงใจให้ธุรกิจรักษาการจ้างงาน ได้แก่ ยืดการจ่ายค่าเช่าที่ดินของรัฐ ลดหรือยืดหรือผ่อนชำระค่าสาธารณูปโภค ยืดการจ่ายค่าต่อทะเบียนยานพาหนะ ลดเงินประกันสังคมจาก 5% เป็น 3% หรือเลื่อนชำระเงินประกันสังคม 3 เดือน เป็นต้น 5.พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ด้วยการอบรมเพิ่มพูนทักษะพร้อมเสริมรายได้ให้กับมัคคุเทศก์ พนักงานโรงแรม.