นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบยอดนักท่องเที่ยวลดลง และการแข่งขันของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่สูงขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะชะลอตัว รวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ คาดว่ารายได้รวมปีนี้ของบริษัทจะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับจากปี 2558 โดยพบว่าในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.63 ยอดจองห้องพักหดตัวลงมากถึง 50-60% ของยอดจองรวม และหากสถานการณ์ COVID-19 ยืดเยื้อออกไปมากกว่า 5 เดือน คาดว่ารายได้ก็จะลดลงมากกว่าที่คาดไว้ “หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ลูกค้าชาวจีนหาย ไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องกระตุ้นให้คนไทย เข้ามาใช้บริการให้มากขึ้นด้วยการทำโปรโมชันและลดราคาที่พัก เร็วๆนี้จะมีงานไทยเที่ยวไทย เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นยอดจองให้กลับมาดีขึ้นได้ และที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับเพิ่มราคาห้องพักขึ้นเฉลี่ย 3% แต่อาจต้องปรับลดราคาลงเพื่อเพิ่มยอดจอง ตอนนี้เราต้องควบคุมค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน ต้องยอมรับว่าปีนี้รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ยและผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมจะลดลงแน่นอน ส่วนผลการดำเนินงานเฉพาะไตรมาส 1 ปีนี้จะลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะยอดการยกเลิกการจองที่พักเฉลี่ยต่อวันหายไปเยอะมาก”
นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ SME ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยพาณิชย์มีพอร์ตสินเชื่อโรงแรม ที่ปล่อยกู้ให้กับเอสเอ็มอี จำนวน 300 โรงแรม มีวงเงินสินเชื่อรวมกัน 13,000 ล้านบาท โดยจากการสอบถามลูกค้าพบว่า เดือน ม.ค.ยอดจองโรงแรมยังเต็มอยู่ เดือน ก.พ.ยอดจองหายไปครึ่งหนึ่ง เดือน มี.ค.มียอดจองเหลือแค่ 20-30% เดือน เม.ย.เงียบสนิท จึงได้ออก มาตรการช่วยเหลือ ได้แก่ 1.พักชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน 2.จัดงาน “SCB เที่ยวไทย ไปด้วยกัน” เพื่อช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศ 3.ช่วยลดต้นทุน ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรด้านต่างๆ.