นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ปี 63 กรมมีแผนจะนำสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ของไทย 5 รายการ ไปยื่นคำขอขึ้นทะเบียนจีไอในต่างประเทศ เพื่อขอรับความคุ้มครอง โดยจะยื่นขึ้นทะเบียนที่จีน 2 สินค้า ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี และทุเรียน ปราจีนบุรี และมาเลเซีย 3 สินค้า ได้แก่ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เพราะสินค้าเหล่านี้เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้นใน 2 ประเทศนี้ จึงต้องรีบขึ้นทะเบียนเพื่อป้องกันการละเมิดที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอในต่างประเทศแล้ว 7 สินค้า ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ที่สหภาพยุโรป (อียู), ผ้าไหมยกดอกลำพูน ที่อินเดีย และอินโดนีเซีย, เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ที่เวียดนาม และยังมีสินค้าจีไอที่รอการขึ้นทะเบียนในต่างประเทศอีก 9 สินค้า ได้แก่ ญี่ปุ่น คือ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง สับปะรดห้วยมุ่น, จีน คือ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และส้มโอทับทิมสยามปากพนัง, เวียดนาม คือ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง และกัมพูชา คือ กาแฟดอยตุง นอกจากนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค โดยจะช่วยเหลือผู้ประกอบการจัดทำระบบควบคุมตรวจสอบคุณภาพสินค้าในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.63 และจะช่วยพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้าจีไอ 10 สินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาดด้วย.