ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทยไขก๊อกบูชายัญมติบอร์ด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)ว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)ได้ประกาศต่อผู้บริหารว่าจะขอลาออก ภายหลังจากที่มีความพยายามยื่นข้อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 6 ม.ค.เพื่อขอให้บอร์ดพิจารณาแนวทางยุติข้อพิพาทระหว่าง กทพ.และบริษัท ทางด่วนและ รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ที่มีรวม 17 คดี มูลค่าประมาณ 58,000 ล้านบาท เฉพาะในส่วนที่ กทพ.แพ้คดีจากการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดเท่านั้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2562 นายสุรงค์ บูลกุล ประธานบอร์ด กทพ.ได้แถลงมติที่ประชุมบอร์ด อนุมัติผลการเจรจาข้อยุติข้อพิพาทคดีความจำนวน 17 คดีดังกล่าวที่ กทพ.กับบีอีเอ็มมีระหว่างกัน โดยยอมแลกกับการที่บีอีเอ็มจะได้สัมปทานประกอบกิจการไปอีก 15 ปี 8 เดือน โดยนายสุชาติได้พยายามอย่างสุดความสามารถในการยื่นข้อเสนอขอให้บอร์ดทบทวน และยุติข้อพิพาทเฉพาะในส่วนที่คดีความถูกตัดสินแพ้ไปก่อนนี้ เพราะคดีข้อพิพาทที่เหลือ ศาลยังไม่ตัดสิน ดังนั้น กทพ.ก็ยังมีโอกาสที่จะชนะ จึงไม่อยากให้ยุติข้อพิพาททั้งหมดแลกกับสัมปทาน

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้มีมติให้บอร์ดหรือ กทพ.ใช้แนวทางยุติข้อพิพาทตามที่บอร์ดเลือก แต่สั่งการให้ กทพ.พิจารณาแนวทางที่เหมาะสม ดังนั้น ทั้งผู้ว่าการฯ และพนักงาน กทพ. ต่างมีความเห็นว่า หากในอนาคตเกิดมีข้อพิพาทระหว่าง กทพ.และเอกชนอีก ผู้ที่จะต้องรับความเสียหายคือผู้ว่าการฯ ในฐานะผู้ลงนามสัญญา และ กทพ.ก็จะต้องรับผิดชอบจ่ายชดเชยความเสียหาย ขณะที่ ครม.ไม่ต้องรับผิดชอบเพราะไม่ได้สั่งการ

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้และถือเป็นเรื่องภายใน ขณะที่นายสุรงค์ บูลกุล ประธานบอร์ด กทพ. กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือลาออกและยังไม่ได้รับการรายงานด้วยวาจา.