สำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดปี 63 ส่งออกโต 2.6%

เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3.3%หวังสงครามการค้าสงบ

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คาดว่าปี 63 ภาคการส่งออกจะขยายตัวมากถึง 2.6% จากปีนี้ที่เฉลี่ยแล้วขยายตัวติดลบ 2.5% เนื่องจากปัจจัยภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยอาจเริ่มคลี่คลายลง โดยเฉพาะสงครามการค้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยปีหน้าให้เติบโตขึ้นถึง 3.3% และ สศค.จะปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่เดือน ม.ค.63

ส่วนเดือน พ.ย.62 เศรษฐกิจไทยยังได้รับแรงสนับสนุนจากภาคบริโภคในประเทศ ซึ่งมาจากยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่เพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว 1.3% จากช่วงเดียวปีก่อน ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเดือน พ.ย. มีจำนวน 3.36 ล้านคน ขยายตัว 5.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นหลัก โดยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นเงิน 166,897 ล้านบาท ส่วนรายได้เกษตรกรเดือนพ.ย.ยังขยายตัว 1.8% จากช่วงปีก่อน ส่วนปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ชะลอตัว 6.8% จากช่วงเดียวของปีที่แล้ว ขณะที่ ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งชะลอตัว 16.4% จากช่วงเดียวของปีที่แล้ว “สศค.ประเมินว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีเศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้สูงสุดจากไตรมาสแรกโต 2.8% ไตรมาส 2 โต 2.3% และไตรมาส 3 โต 2.4%”

สำหรับการส่งออกเดือน พ.ย.62 ยังคงชะลอตัว สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ชะลอตัวที่ 7.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.2% สูงขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.5% ขณะที่อัตราการว่างงานเดือน พ.ย. อยู่ที่ 1.1% เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค.ซึ่งอยู่ที่ 0.9% เพิ่มขึ้นไม่มากและอยู่ในระดับปกติ แม้จะมีโรงงานปิดตัวมาก แต่กระทรวงอุตสาหกรรม ก็รายงานว่ายอดเปิดโรงงานก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับเดือน ธ.ค.2562 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ ต.ค.62 อยู่ที่ 41.0% ต่อจีดีพีอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ขณะที่เสถียรภาพภายนอกยังมั่นคงรองรับความเสี่ยงความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้น พ.ย.62 อยู่ในระดับสูงที่ 221,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ.