นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) หรือทียู เปิดเผยว่า ยอดขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อยู่ที่ 31,838 ล้านบาท กำไรขั้นต้นประจำไตรมาสอยู่ที่ 5,077 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ก.ย.) มีกำไรอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของค่าเงิน โดยในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2562 ยอดขายจากทวีปอเมริกาเหนือมีสัดส่วน 38% ยอดขายจากทวีปยุโรป 31% ยอดขายจากประเทศไทย 13% และตลาดอื่นๆ 18% “ในช่วงไตรมาส 3 แม้ปริมาณการขายเติบโตถึง 3.8% แต่ทียูรายงานยอดขายอยู่ที่ 31,838 ล้านบาท ลดลง 1.3% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าเงินสกุลหลักๆในการค้า ได้แก่ เหรียญสหรัฐฯลดลง 6.9% ปอนด์ลดลง 12% และยูโรลดลง 11%”
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปมียอดขายอยู่ที่ 14,466 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาทูน่าที่ลดลง 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการค้าของโลก ส่วนธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งและแช่เย็นมีปริมาณการขายอยู่ที่ 73,084 ตัน ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นถึง 15.2% อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาของกุ้งที่ลดลง 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายของธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งและแช่เย็นลดลง 2% อยู่ที่ 12,768 ล้านบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ในขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ามียอดขายเพิ่มขึ้น
6.9% อยู่ที่ 4,604 ล้านบาท
นายธีรพงศ์ กล่าวว่า ตลาดสกุลเงินที่ผันผวนทำให้สินค้าส่งออกจากประเทศไทย ต้องเจอกับความท้าทาย ส่วนกรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯหรือยูเอสทีอาร์ ประกาศเพิกถอนสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้า (จีเอสพี) สำหรับสินค้านำเข้าจากไทยไปยังไปสหรัฐฯหลายรายการนั้นทียูไม่ได้รับผลกระทบ นอกจากนั้น บริษัท จอห์น เวสต์ ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ยังได้ประกาศว่าศาลได้ตัดสินให้บริษัทไม่มีความผิดใดๆ ในข้อกล่าวหาว่าทำธุรกิจกับการประมงที่ผิดกฎหมายหรือไอยูยู.