ทุกอย่างจบที่ “พลังงาน”

นายกุลิศ สมบัติศิริ

คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กำหนดการประชุมนัดแรกหลังจากอนุมัติแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในบอร์ดกองทุนอนุรักษ์แล้วเสร็จ โดยเนื้อหาหลักจะปรับหลักเกณฑ์กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานใหม่ ให้สอดรับกับนโยบายพลังงานที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจรากหญ้าภายใต้กรอบวงเงินกองทุนอนุรักษ์ 60,000 ล้านบาท ใน 5 ปี (2560-2564) หรือเฉลี่ยปีละ 12,000 ล้านบาท คาดว่านโยบายหลักๆของบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ จะเน้นส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนให้เกิดขึ้นเป็นผลสำเร็จ และจะทำให้การใช้เงินในแผนการอนุรักษ์พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในการผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่องให้เกิดขึ้น เช่น ที่จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ สตูล เป็นต้น

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จะมีการเสนอที่ประชุมให้อนุมัติกรอบการทำงานของกองทุนในวงเงิน 12,000 ล้านบาทโดยได้กำหนดสัดส่วนวงเงินสนับสนุนแบ่งเป็นด้านอนุรักษ์พลังงาน 60% ด้านพลังงานทดแทน 30% และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 10% ทั้งนี้จากแผนการใช้เงินที่จะเน้นสนับสนุนโรงไฟฟ้าชุมชนที่ใช้เชื้อเพลิงจากพืชเกษตรอาจเปลี่ยนแปลงสัดส่วนโดยเพิ่มวงเงินในเรื่องการส่งเสริมพลังงานทดแทนให้มากขึ้น ส่วนความคืบหน้าการเปิดเสรีนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) หลัง กฟผ. ถูกให้ยกเลิกประมูลนำเข้า 1.5 ล้านตันและให้ทดลองนำเข้าแบบตลาดจร (สปอต) 2 ลำเรือ หรือไม่เกิน 180,000 ตัน ล่าสุด กฟผ.รายงานให้ทราบว่าได้ออกประกาศเชิญชวนผู้ค้าเสนอราคาเพื่อจัดหาให้ กฟผ.ทดลองใช้กับโรงไฟฟ้าวังน้อย และบางปะกงแล้ว 140,000 ตัน และมีเอกชนสนใจยื่นเสนอราคารวม 41 ราย.