“ศักดิ์สยาม” ตอกหน้า “ซีพี”

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่นายธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) แสดงความเห็นถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) ว่ามีความเสี่ยงมาก ภาครัฐควรรับความเสี่ยงร่วมกับเอกชนว่า ตนมองว่าในเอกสารยื่นข้อเสนอโครงการ (อาร์เอฟพี) ระบุชัดเจนว่า เอกชนที่จะเข้ามาร่วมลงทุน ต้องรับความเสี่ยงนี้เอง โดยกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยืนยันที่จะดำเนินการตามอาร์เอฟพี และกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการดำเนินโครงการจะยังเป็นไปตามกำหนดการเดิมที่จะลงนามสัญญาร่วมกันระหว่างกลุ่มซีพี และ รฟท. วันที่ 15 ต.ค.นี้

ส่วนที่ระบุว่าการดำเนินโครงการร่วมทุนระหว่างเอกชนและรัฐบาล (พีพีพี) หากไม่ดำเนินการตามกำหนดไม่ถือว่าเป็นผู้ทิ้งงาน หรือถูกขึ้นบัญชีดำนั้น ในอาร์เอฟพีข้อ 56.3 ระบุชัดเจนว่า ผู้ได้รับการคัดเลือก หากไม่มาทำสัญญาภายในเวลาที่กำหนดจะถูกริบเงินหลักประกันซอง หรือถูกเรียกร้องจากผู้ออกหลักประกันซองทันที และอาจพิจารณาให้ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือก พิจารณาข้อกฎหมาย ทั้งอาร์เอฟพี และพีพีพีว่าระบุถึงการดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดความรอบคอบและชัดเจน โดยจะประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการติดตามโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบินวันนี้ 9 ต.ค.นี้

“ส่วนที่มองกันว่านายธนินทร์แสดงความคิดเห็นเช่นนี้ จะฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนหรือไม่นั้น ผมมองว่าเป็นสิทธิของเอกชนที่จะแสดงความคิดเห็น แต่ภาครัฐต้องดูว่าได้ดำเนินการอะไรตามกรอบของอาร์เอฟพี หรือพีพีพีบ้าง หรือมีอะไรที่ทำไม่ได้ เพราะภาครัฐมีหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมาย”.