นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจเบียร์ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ 2025 หรือปี 2578 ของกลุ่มบริษัท หลังที่การดำเนินการตามวิสัยทัศน์ 2563 ที่ประกาศไว้ในปี 2557 เป็นที่น่าพอใจ จากผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 205,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 18.2% กำไรสุทธิ 21,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.1% ว่า วิสัยทัศน์ 2025 จะให้ ความสำคัญกับ 2 เรื่องหลักคือ การเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล และการพัฒนาคน โดยวางแผนงานด้านไอทีไปจนถึงปี 2050 และกำหนดแผนพัฒนาคนไปจนถึงปี 2050 เพื่อพัฒนาระบบไอทีให้ทันกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลง รวมถึงสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัล
“โลกเปลี่ยนไป คนเราต้องพร้อม เพราะคนที่จะเป็นผู้บริหารในปี 2050 นับจากนี้ไปอีก 30 ปี คือคนที่เข้ามาทำงานอายุ 20 ปีในตอนนี้ และจะมีอายุ 50 ปี ในปี 2050 จึงต้องพัฒนากลุ่มคนเหล่านี้ตั้งแต่วันนี้ไปตลอด 30 ปี และมีคนอีก 60,000 คน ที่ต้องเตรียมรองรับกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามาในระบบงานของเรา ซึ่งคนเหล่านี้ต้องมีทั้งการเพิ่มทักษะใหม่ การพัฒนาทักษะงานเดิมที่ต้องเพิ่มความสามารถ”
นายฐาปน กล่าวต่อถึงเป้าหมายของไทยเบฟฯว่า จากปัจจุบันที่เป็นผู้นำ ตลาดอาเซียนจากนี้ไปจะมองไปไกลกว่าอาเซียนคือ การมองไปถึงอาเซียน + 6 หรืออาเซ็ป ที่รวมอินเดียและจีน ทำให้เป็นตลาดใหญ่ที่มีสัดส่วนราว 50% ของประชากรทั้งโลก และมีประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เช่น เมียนมา 7.45%, กัมพูชา 7.2% ลาว 7.1% เวียดนาม 6.2% โดยแผน 5 ปีจากนี้ จะกลับมาเน้นตลาดที่คุ้นเคย โดยจะซูมตลาดให้ชัดขึ้น โดยเฉพาะในไทย เวียดนาม และเมียนมา โดยในปีนี้จะใช้งบลงทุนประมาณ 7,000 ล้านบาท.