“กขค.” ขึงขังเลิกเป็นเสือกระดาษ เชือดธุรกิจแข่งขันไม่เป็นธรรม

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“กขค.” ขึงขังเลิกเป็นเสือกระดาษ เชือดธุรกิจแข่งขันไม่เป็นธรรม

Date Time: 6 ส.ค. 2562 08:38 น.

Summary

  • คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ลงโทษปรับ “เอ็ม-150” และกรรมการบริษัท รวม 12 ล้านบาท หลังจำกัดการแข่งขันจากธุรกิจคู่แข่งเสียหาย พร้อมปรับผู้รับซื้อสินค้าเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ 2 ราย

Latest

บาร์บีคิวพลาซ่า x วิตอะเดย์ เปลี่ยน “ผัก” ข้างเตาปิ้งย่าง ให้เป็น น้ำวิตามินกะหล่ำปลี

คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ลงโทษปรับ “เอ็ม-150” และกรรมการบริษัท รวม 12 ล้านบาท หลังจำกัดการแข่งขันจากธุรกิจคู่แข่งเสียหาย พร้อมปรับผู้รับซื้อสินค้าเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ 2 ราย เป็นเงิน 2 หมื่นบาท ส่วน ส่วน เทสโก้ โลตัส จำกัดการแข่งขัน รอด!

นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้ตัดสินคดีร้องเรียนผู้ประกอบธุรกิจ มีพฤติกรรมแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม 3 คดี โดยคดีแรก เป็นการห้ามขายสินค้าของคู่แข่งในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ที่ร้องเรียนเมื่อปี 2555 โดยตัวแทนจำหน่ายได้ร้องทุกข์ต่อ กขค.ว่า บริษัท เอ็ม-150 จำกัดห้าม ตัวแทนจำหน่ายขายเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ของคู่แข่ง หากไม่ปฏิบัติตามจะไม่ส่งสินค้าตรา เอ็ม-150 ทำให้ตัวแทนจำหน่ายเดือดร้อน

หลังการสืบสวนพบว่า บริษัทมีความผิดจริง ตาม พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 เพราะบริษัท เอ็ม-150 ถือเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดถือเป็นการจำกัดการแข่งขัน แทรกแซงการประกอบธุรกิจของผู้อื่น ทำให้เสียหายและจำกัดการประกอบธุรกิจของผู้ร้อง จึงได้สั่งเปรียบเทียบปรับบริษัท และนายประธาน ไชยประสิทธิ์ กรรมการบริษัท รายละ 6 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท ซึ่งได้เปรียบเทียบปรับแล้ว เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นผลให้คดีเลิกกัน

สำหรับคดีที่ 2 เป็นพฤติกรรมทางการค้า ที่ไม่เป็นธรรมของผู้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ร้องเรียนเมื่อปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มเกษตรกรร้องเรียนว่า ผู้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ 2 ราย กดราคารับซื้อผลผลิตทางการเกษตร และห้ามให้ผู้รับซื้อรายอื่นเข้ามารับซื้อในพื้นที่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจรายอื่นเสียหายทางธุรกิจ โดยกขค. ได้สืบสวนสอบสวนแล้ว พบว่าทั้ง 2 ราย
มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง จึงสั่งให้ปรับเป็นเงิน 50,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพจึงเหลือปรับเพียง 25,000 บาท

คดีที่ 3 ได้ร้องเรียนเมื่อปี 2554 โดยบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือห้างบิ๊กซี และ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด (ห้างคาร์ฟูร์) ร้องเรียนว่า ห้างเทสโก้ โลตัส ได้โฆษณาในหนังสือพิมพ์ว่า ให้สิทธิพิเศษ 2 เท่า สำหรับลูกค้าที่ถือคูปองของคาร์ฟูร์มาซื้อสินค้าที่เทสโก้ โลตัส รวมถึงห้างเทสโก้ โลตัส ได้แจกใบปลิวในพื้นที่ห้างคาร์ฟูร์ ว่า สมาชิกบัตร คาร์ฟูร์ I Wish มีโอกาสรับ 200 บาท หากสมัครเป็นสมาชิกบัตรเทสโก้คลับการ์ด

“กขค.ตัดสินว่า โปรโมชันเพิ่มมูลค่าคูปองสองเท่า เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 เป็นการกระทำที่ไม่ใช่การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม มีผลทำลายธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เมื่อมีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวใหม่เป็น พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ที่ปรับปรุงโทษตามมาตรา 29 ให้เหลือเพียงโทษปรับทางปกครอง ไม่มีโทษจำคุก จึงไม่สามารถนำโทษอาญามาปรับเป็นโทษปรับทางปกครองได้ จึงยกผลประโยชน์ให้จำเลย ส่งผลให้ กขค.จะนำเสนอยุติเรื่อง ส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาต่อไป”

ทั้งนี้ หากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ พ.ร.บ.แข่งขัน พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้ ห้างเทสโก้ โลตัส จะมีความผิดตามมาตรา 57 มีโทษถูกปรับไม่เกิน 10% ของยอดขายในปีที่กระทำผิด ส่วนกรณีบัตร I Wish พิจารณาเห็นว่า ไม่เข้าข่ายเป็นการใช้อำนาจตลาดอย่างไม่เป็นธรรม และไม่ผิด พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า

“ผลการตัดสิน และลงโทษคดีเหล่านี้ ถือเป็นการลงโทษครั้งแรกนี้ ทำให้ภาคธุรกิจเห็นว่า กขค.ไม่ได้เป็นแค่เสือกระดาษ และยังมีคดีร้องเรียนใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาอีก 7 เรื่องที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ