นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งจะทำให้ ขสมก.สามารถจัดหารถใหม่ และปรับปรุงสภาพรถเมล์เดิม รวมทั้งสิ้น 3,000 คัน จากเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติไว้ที่ 3,183 คัน มูลค่า 13,000 ล้านบาท โดยในแผนฟื้นฟูจะให้เช่ารถและจัดหารถ แบ่งเป็นการเช่ารถ 700 คัน เป็นรถเมล์เอ็นจีวี 300 คัน รถไฮบริด 400 คัน และจัดหารถใหม่ 2,300 คัน เป็นการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ซึ่งดำเนินการไปแล้ว จัดหารถไฮบริด 1,453 คัน รถเมล์ไฟฟ้า EV 35 คัน และรถปรับปรุงใหม่ 323 คัน
โดย ขสมก.จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ทั้งการติดตั้งระบบเก็บเงินแบบดิจิทัล (E-Ticket) ชำระค่าโดยสารด้วยคิวอาร์โค้ด ติดตั้งระบบจีพีเอส รวมถึงให้บริการไวไฟบนรถเมล์ รวมทั้งจะปรับปรุงเส้นทางเดินรถเมล์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้า โดยปรับเส้นทางรถจากปัจจุบันให้บริการอยู่ 117 เส้นทาง เป็น 137 เส้นทาง
“ภายใต้แผนนี้ ขสมก.จะต้องเปิดโครงการสมัครใจร่วมใจจาก (เออร์ลี่รีไทร์) พนักงานทั้งสิ้น 5,000 คน จากทั้งหมด 13,000 คน โดยแผนฟื้นฟูได้ ระบุว่าพนักงานประจำรถ ขสมก. 1 คัน จากเดิมมีพนักงานประจำรถ 5.14 คนต่อคัน ต้องลดลงเหลือ 2.7 คนต่อคัน โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 63-65 โดยปี 63 ลดพนักงานลง 700 คน ปี 64 ลดพนักงาน 2,198 คน และปี 65 ลดพนักงาน 2,198 คน โดยโครงการนี้คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท”
นายอาคม กล่าวต่อว่า ในแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.จะเดินหน้าพัฒนาเชิงธุรกิจเพื่อสร้างรายได้เสริม โดยจะนำที่ดินที่มีศักยภาพ 2 แห่ง มาพัฒนาเชิงพาณิชย์คือ บริเวณอู่บางเขน และอู่มีนบุรี รวมทั้งดำเนินการบริหารหนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 120,000 ล้านบาท โดยจะเสนอกระทรวงการคลังให้รับภาระหนี้สินแทน ซึ่งในส่วนนี้ต้องไปพิจารณาว่ามีหนี้ส่วนใดบ้าง เช่น หนี้ที่เกิดจากนโยบายกว่า 80% และหนี้เพิ่มประสิทธิภาพกว่า 20% ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุดเพื่อพิจารณาหนี้สิน.