"ดร.กฤตย์" กับงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 51

กว่า 30 ปีที่ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าที่คนไทยได้คุ้นเคยกัน มีวิวัฒนาการเรื่อยจนถึงปัจจุบัน มีบริษัทผู้จัดงานมืออาชีพที่มีศักยภาพในการจัดงานแสดงสินค้าเกิดขึ้นมากมาย บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด เป็นหนึ่งในบริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้ามืออาชีพที่มีความโดดเด่นอย่างมากในธุรกิจนี้

ซึ่งผลงานที่ประสบความสำเร็จกับการต้อนรับของผู้บริโภคอย่างล้นหลามในการจัดงานแต่ละครั้ง จนล่าสุดกับงานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 51 ด้วยประสบการณ์ของผู้บริหารทุกคน นำโดย “ดร.กฤตย์ พัตรปาล” กรรมการผู้จัดการ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหาร ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับความไว้วางใจให้วางแผนและดำเนินการบริหารงานสำคัญๆ ให้กับหน่วยงานของรัฐและเอกชนทั้งในและนอกประเทศหลายงาน

ดร.กฤตย์กับงานไทยเที่ยวไทย เป็นงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 ต่อเนื่องมาทุกปีถึงปัจจุบัน ทำให้มีความสามารถหลักในการจัดงานให้มีความโดดเด่นและแตกต่างจากงานอื่น จนสามารถดึงดูดให้มีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการทุกประเภท เข้าร่วมแสดงงานเป็นจำนวนมาก หลายร้อยคูหาต่องาน

การจัดงานแต่ละครั้ง มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานนี้เป็นจำนวนมากหลายแสนคน และมียอดเงินสะพัดจากการซื้อขายสินค้าภายใน งานหลายร้อยล้านบาทขึ้นไป จึงได้รับการยอมรับจากภาคธุรกิจท่องเที่ยว และเป็นที่กล่าวขานจากสื่อมวลชนว่าเป็น “หนึ่งในงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของไทย”

จากจุดเริ่มต้นด้วยความฝันเล็กๆของคนที่รักและชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทุกหนแห่งในประเทศ ได้เก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์และพัฒนามาเป็นบริษัทที่ดำเนินการธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ กับแนวคิดที่ไม่หยุดนิ่ง และสร้างสรรค์จนกระทั่งเป็นงานไทยเที่ยวไทย นับเป็นส่วนหนึ่งความสำเร็จของงานที่มีส่วนร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย

ดร.กฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้กระแสการท่องเที่ยวเมืองรอง หรือ Local Market กำลังเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทย เนื่องจากภาครัฐส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองรวม 55 จังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดที่นักท่องเที่ยวยังมีไม่มากนักแต่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ลำปาง เชียง ราย สุโขทัย จันทบุรี ตราด ตรัง สตูล ระนอง ฯลฯ

โดยมหกรรมงานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 51 เป็นมหกรรมลดราคาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ประจำปีในช่วงฤดูฝน มีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจำนวนมากมาออกบูธ รวมทั้งหมด 700 ราย ทั้งโรงแรม รีสอร์ต โฮมสเตย์ สายการบินในประเทศ ทัวร์ รถเช่า เรือท่องเที่ยว สปา ภัตตาคาร สถานบันเทิงและพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงผู้จำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เดินทาง เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์กีฬาต่างๆ

“ภายในงานนอกจากจะมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากเมืองหลักในจังหวัดยอดนิยมจำนวนมากแล้ว ยังมีที่พักชุมชนประเภท โฮมสเตย์ ทัวร์ท้องถิ่น จากเมืองรองทั่วทุกภูมิภาคมาร่วมงานอีกเยอะ ซึ่งข้อดีของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง นอกจากจะช่วยลดความแออัดในเมืองหลัก ยังช่วยประหยัดค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในราคาสบายกระเป๋ามากขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่และสัมผัสวิถีท่องเที่ยวชุมชนอย่างแท้จริง พร้อมทั้งนำใบเสร็จจากการซื้อที่เที่ยวที่พักตรงตามเงื่อนไขไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้อีกด้วย”

ดร.กฤตย์ กล่าวด้วยว่า การลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวคือหักค่าใช้จ่ายได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท ในเมืองรอง และไม่เกิน 15,000 บาท ในเมืองหลัก ใบเสร็จสามารถนำไปช่วยลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไข คาดว่าตลอด 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 27-30 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ จะมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมงานมากกว่า 300,000 คน สร้างเงินสะพัดได้มากกว่า 200 ล้านบาท

ไฮไลต์ของงานคือพาวิลเลียนขนาดใหญ่ที่มาจัดแสดงเป็นโซนต่างๆ อาทิ โซนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคตะวันออก โซนการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายงามแต๊แต๊ โซนโครงการ I am Local ภาคเหนือ โซนการท่องเที่ยวเมืองรองภาคใต้ โซนรถเช่า โซนสายการบินภายในประเทศ โซนเที่ยวไปกินไป และโซนกีฬากับอาดิดาส เป็นต้น

ลองแวะไปดูกันได้ ไทยเที่ยวไทย เงินสะพัดในประเทศ แถมซ้ำยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย.