นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้สำรวจสินค้าที่ขายดีในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจำนวน 779 ร้านค้า จากกลุ่มผู้ซื้อตัวอย่าง 9,000 ราย พบว่า กลุ่มอาหารแห้ง เช่น ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อมากที่สุด รองลงมาเป็น ไข่ไก่, ข้าวสาร ข้าวเหนียว, น้ำมันพืช, เนื้อสัตว์ทุกชนิด โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการมากที่สุด 28.04% เป็นกลุ่มพ่อบ้าน แม่บ้าน ส่วน 24.83% เป็นกลุ่มเกษตรกรและชาวสวน อีก 18.05% เป็นกลุ่มแรงงานและรับจ้างทั่วไป 9.99% เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 6.94% เป็นนักเรียน นักศึกษา 5.29% กลุ่มพนักงาน ลูกจ้างเอกชน 4.03% กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และ 2.83% กลุ่มคนพิการ ด้อยโอกาส
สำหรับสินค้าที่ร้านต้องการรับมาจำหน่ายเพิ่ม เพราะเป็นสินค้าที่มียอดขายเพิ่มสูงขึ้นคือ ข้าวสาร มีสัดส่วนมากที่สุด รองลงมาคือ เนื้อสัตว์ น้ำมันพืช ผลไม้ สินค้าโอทอป ผลิตภัณฑ์ซักผ้า และอาหารสัตว์ เป็นต้น
“จากจำนวนยอดขายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ 60,000 ร้าน รวมมูลค่าล่าสุดเฉพาะร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) 61,973 ล้านบาท กว่าครึ่ง เป็นการซื้อสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำพริก กะปิ น้ำปลา ผัก ผลไม้ เช่น หอมแดง กระเทียม มะพร้าว สับปะรด เกษตรแปรรูป สินค้าโอทอป แสดงให้เห็นว่าร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เป็นช่องทางการจำหน่ายที่สำคัญให้กับเกษตรกร และผู้ผลิตสินค้าชุมชน”
ขณะเดียวกัน ร้านค้าแบบใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” พบว่า มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมียอดขาย 2,400 ล้านบาท ซึ่งได้ช่วยให้ร้านค้ารายเล็กรายน้อย ร้านค้าในชุมชน ตลาดสด ร้านโชห่วย รถเร่ แผงลอย ร้านขายอาหารตามสั่ง อาหารปรุงสำเร็จ มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ร้านค้ามีความเข้มแข็ง แต่ยังช่วยเพิ่มทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอยให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย
“ปัจจุบัน กรมยังใช้กลไกของร้านธงฟ้าประชารัฐ ช่วยกระจายสินค้าให้กับเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าชุมชน โดยประสานความร่วมมือกับร้านค้าส่ง ผู้ให้บริการขนส่งโลจิสติกส์ ขนส่งและช่วยกระจายสินค้า ซึ่งแต่เดิมเคยขายอยู่ในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง หรือภาคใดภาคหนึ่ง ให้สามารถขายข้ามจังหวัดและข้ามภาคได้ ทำให้รายได้ของเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าชุมชนเพิ่มขึ้น”.