ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท หัวเว่ย จำกัด ผู้ผลิตมือถือและผู้ให้บริการโทรคมนาคมจากจีน ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจของหัวเว่ยกับ บริษัท อาร์ม จำกัด (ARM) ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิบัตร เทคโนโลยีเซมิคอนตัคเตอร์ และเป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมพื้นฐานของชิพ ให้กับสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังทั่วโลก โดยระบุว่าหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ประกาศเพิ่มชื่อ หัวเว่ยเข้าไปในรายชื่อ Entity อันทำให้อาร์มต้องขออนุญาตรัฐบาลสหรัฐฯในกรณีที่ต้องการทำธุรกิจกับหัวเว่ยต่อไปนั้น
ขณะนี้ อาร์มซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของหัวเว่ยกำลังประเมิน ผลกระทบจากการตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และกำลังเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯให้เวลา 90 วัน ในการรับมือกับคำสั่งดังกล่าว ขณะที่ บริษัทคู่ค้าของ
หัวเว่ยหลายรายเลือกที่จะดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ย และร่วมฝ่ามรสุมนี้ไปด้วยกัน ซึ่งในอนาคตข้างหน้าหัวเว่ยจะทำงานกับบริษัทคู่ค้าของหัวเว่ยต่อไป เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าและผู้บริโภคทั่วโลก โดยยังคงสั่งสินค้าจากซัพพลายเออร์ในตลาดตามปกติ เพื่อให้การพัฒนาอุตสาหกรรมของหัวเว่ย ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ อาร์มเป็นผู้ออกแบบชิป ซึ่งผู้ผลิตชิปแบรนด์ดังของโลก หลายรายนำไปผลิตเป็นชิป เช่น Samsung Exynos, Qualcomm Snapdragon, ชิป A11 ที่ แอปเปิลใช้กับไอโฟน รวมทั้งชิปในตระกูล Kirin ที่ใช้กับสมาร์ทโฟนหัวเว่ยด้วย โดยอาร์มเป็นบริษัทอังกฤษ แต่ประกอบกิจการในสหรัฐฯ.