ลุ้นจับชีพจร “กกพ.” อยู่หรือได้ไปต่อ

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล โฆษกกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.ยังไม่พร้อมให้ข้อมูล กรณีที่จะต้องมีการลาออกจากกกพ.ของกรรมการทั้ง 6 คนพร้อมๆกัน หรือจับสลากออก 3 คน หรือแสดงสปิริตลาออก 2 คนตามลำดับอาวุโส จากเดิมที่นัดประชุมกันเมื่อวันที่ 23 ก.ค. และขอไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกพ.ชุดนี้ตั้งขึ้นมาตามคำสั่งมาตรา 44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2557 รวม 7 คน แต่นายไกรสีห์ กรรณสูต อายุครบ 70 ปี จึงหมดวาระไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ทำให้เหลือเพียง 6 คน จนถึงปัจจุบันได้ทำงานมาครบ 4 ปี และสถานการณ์ล่าสุดของ กกพ. อาจไม่สามารถยื้ออายุต่อไปได้อีกแล้ว และเป็นไปได้ว่าต้องลาออกไปพร้อมๆกันทั้ง 6 คน แม้ว่ามีการจุดประเด็นให้จับสลากออก 3 คน หรือให้ผู้ที่มีอายุสูงสุดใน 6 คน ลาออกรวม 2 คน เพื่อยื้อเวลาไว้อีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้ หาก กกพ.ชุดนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนใดๆ ก็อาจนำไปสู่การปลดออกทั้งชุด ซึ่งทั้ง 6 คนประกอบด้วย นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธาน กกพ. กรรมการประกอบด้วย นางดวงมณี โกมารทัต นายวัชระ คุณาวัฒนาวุฒิ นางวิไลพร ลิ่วเกษมศานต์ นางปัจฉิมา ธนสันติ นายวีระพล จิรประดิษฐกุล

ทั้งนี้ ได้มีการสันนิษฐานหลายๆประเด็นว่าเหตุใดจึงมีการกดดัน กกพ.ให้พ้นวาระ อาทิ การขัดแย้งกรณีที่ไม่ออกใบอนุญาตการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) หรือแอลเอ็นจีชิปปิ้ง ของกลุ่มบริษัท กัลฟ์ จำกัด จนนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอความเป็นธรรมของกัลฟ์ฯ ซึ่งเรื่องนี้นายวีระพลได้ชี้แจงว่า การไม่ออกใบอนุญาต เพราะเห็นว่าบริษัท กัลฟ์ฯไม่ได้มีกลุ่มลูกค้าใหม่ที่จะใช้แอลเอ็นจี แต่มีเพียงลูกค้าเดิมๆ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์คุณสมบัติ และกัลฟ์มีสิทธิยื่นฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย.