บลจ.กสิกรไทย ครองแชมป์ที่ 1 ธุรกิจกองทุนรวม เล็งรุกช่องทางดิจิทัลเพิ่ม

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

บลจ.กสิกรไทย ครองแชมป์ที่ 1 ธุรกิจกองทุนรวม เล็งรุกช่องทางดิจิทัลเพิ่ม

Date Time: 12 มิ.ย. 2561 21:18 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้าหมายฐานลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นอีก 60% ยังครองแชมป์อันดับ 1 ธุรกิจกองทุนรวมต่อเนื่อง

Latest


บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้าหมายฐานลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นอีก 60% ยังครองแชมป์อันดับ 1 ธุรกิจกองทุนรวมต่อเนื่อง  

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หากดูข้อมูลของอุตสาหกรรมย้อนหลังในช่วง 10 ปี จะพบว่าแนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ผู้ลงทุนจะค่อยๆ ลดการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และหันมาเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับย่อมมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนเฉลี่ยของนักลงทุนกองทุนรวมในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา ยังอยู่ในระดับต่ำเฉลี่ยที่ 2.9% ซึ่งหากนักลงทุนมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมตามพอร์ตกับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้นั้น จะพบว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้ถึง 11.4% (ข้อมูลจาก บลจ.กสิกรไทย ณ 30 เม.ย. 61)

นายวศิน กล่าวอีกว่า บริษัทได้พัฒนาช่องทางการให้บริการผ่านระบบดิจิทัล ส่งผลให้บลจ.กสิกรไทยมีจำนวนลูกค้ากองทุนรวมที่ลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10% ยอด ณ สิ้นปี 60 มีลูกค้ากองทุนรวมที่ลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital-based Users) คิดเป็นสัดส่วนที่ 42% จากจำนวนลูกค้ากองทุนรวมทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงสุดอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม

ส่วนเป้าหมายในปี 2561 นี้ บลจ.กสิกรไทยตั้งเป้าหมายฐานลูกค้าที่ใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล เพิ่มขึ้นอีกเป็น 60% ของจำนวนลูกค้ากองทุนรวมทั้งหมด และคาดว่าภายในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 80% ของจำนวนลูกค้ากองทุนรวมทั้งหมด หรือคิดเป้าหมายเป็นลูกค้ากองทุนรวมที่ลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัล 800,000 ราย จากลูกค้ากองทุนรวมทั้งหมด

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย เติบโตอยู่ที่ 2.5% โดยปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ หรือ AUM อยู่ที่ 1.34 ล้านล้านบาท แยกเป็นรายธุรกิจในส่วนกองทุนรวมอยู่ที่ 1.02 ล้านล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1.95 แสนล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 1.25 แสนล้านบาท โดยคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดจำแนกตามธุรกิจอยู่ที่ 20.3%, 17.6% และ 13.9% ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน บลจ.กสิกรไทย ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นับว่ามีตัวเลขเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปี เมื่อเทียบทั้ง 3 ธุรกิจ โดยเติบโตที่ 12.3% ขณะที่กองทุนส่วนบุคคล เติบโตที่ 7.2% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าซึ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบันที่มีต่อบลจ.มากยิ่งขึ้น (ข้อมูลจาก AIMC ณ 31 พ.ค.2561) 

ทางด้านนายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 พ.ค.61 ที่ผ่านมา ตนเข้ามารับหน้าที่ในการประสานงานกับธนาคารมากขึ้น เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางนี้ เนื่องจากยังมีช่องว่างในการเพิ่มจำนวนนักลงทุนและแนะนำช่องทางการลงทุนเพิ่มเติมแก่ลูกค้าธนาคาร โดยเฉพาะการลงทุนทางเลือกที่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มผลตอบแทนนอกเหนือจากเงินฝาก


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ