นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมได้ออกประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจประมูลยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) ในอ่าวไทย ตามทีโออาร์การเปิดประมูลภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ล่าสุดได้มีบริษัทที่สนใจเข้ามารับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประมูลแล้ว 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม จำกัด บริษัท เชฟรอนประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด บริษัท Mitsui Oil Exploration Co.,Ltd. จากประเทศญี่ปุ่น บริษัท โททาล อี แอนด์ พี ไทยแลนด์ จำกัด และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะนำเอกสารที่ได้รับไปศึกษาเพื่อมายื่นขอ สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยต่อไป
ด้านนายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ปตท.สำรวจ และผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ.จะเข้าร่วม ประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติ บงกชและเอราวัณ เพราะเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ และความชำนาญ 20 ปี จะสร้างความต่อเนื่องในการผลิตได้ด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ปีนี้ ปตท.สผ.มีรายได้รวม 39,105 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจาก 38,377 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2560 มีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ 9,607 ล้านบาท และมีกำไรจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ 3,774 ล้านบาท ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ถือว่ามีผลการดำเนิน งานน่าพอใจ และสามารถเดินหน้าขยายการลงทุนตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ ทั้งการรักษาระดับต้นทุนการผลิต การเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนโครงการบงกช เพิ่มเติม พร้อมผลักดันโครงการที่รอการตัดสินใจโดยเฉพาะโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) กับบริษัท EDF ประเทศฝรั่งเศส 1.2 ล้านตันต่อปี ฯลฯ.