นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ มีคำสั่งให้คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ชุดที่ 12 พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ เนื่องจากพบว่ามีเจตนาที่จะไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับคณะกรรมการสหกรณ์สโมสรรถไฟ ชุดที่ 7-11 หลังตรวจพบว่าระหว่างปี 55-59 มีการอนุมัติจ่ายเงินกู้ให้กับสมาชิก 6 ราย รวม 199 สัญญา วงเงิน 2,285.87 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายเงินเกินระเบียบของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการเป็นการชั่วคราวจำนวน 15 ราย เข้าไปบริหารงานแทนนั้น ล่าสุดทางคณะกรรมการชุดใหม่ได้ประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาทั้งหมดแล้ว
สำหรับเรื่องที่จะเร่งรัดดำเนินการ ได้แก่ การดำเนินคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายกับคณะกรรมการชุดที่ 7-11 และการเข้าไปฟื้นฟูการดำเนินงานของสหกรณ์ เพื่อบริหารจัดการด้านการเงินให้มีประสิทธิภาพ มีสภาพคล่องเพียงพอให้สมาชิกสามารถกู้เงิน และมีเงินไปชำระหนี้ให้กับสหกรณ์เจ้าหนี้ที่เข้ามาฝากเงินหรือปล่อยกู้ให้กับสหกรณ์สโมสรรถไฟ โดยจะเร่งทำงานให้เสร็จภายใน 180 วัน จากนั้นจึงประชุมวิสามัญ เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาดำเนินงานต่อไปได้
“เบื้องต้นอาจต้องนำที่ดินที่สมาชิกทั้ง 6 ราย ได้นำมาจำนองไว้ หรือนำทรัพย์สินของสมาชิกมาขายทอดตลาด เพื่อนำเงินไปคืนสหกรณ์สโมสรรถไฟส่วนหนึ่ง ซึ่งเงินที่ได้มานั้นจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ระบบสหกรณ์ เพื่อรองรับการทำธุรกรรมทางการเงินของสมาชิกได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น เช่นเดียวกับการชำระหนี้เงินกู้ต่างๆให้กับเจ้าหนี้ได้ เพราะปัจจุบันสหกรณ์สโมสรรถไฟมีเงินหมุนเวียนอยู่เพียงเดือนละ 55 ล้านบาทเท่านั้น”
นายวิศิษฐ์กล่าวว่า คณะกรรมการชั่วคราวต้องเจรจากับเจ้าหนี้ของสหกรณ์สโมสรรถไฟทั้งหมด 15 ราย เพื่อตกลงการชำระหนี้คืน เช่น กำหนดระยะเวลา วงเงินชำระ เป็นต้น และจะหารือกันอีกครั้งในวันที่ 18 เม.ย.นี้ เพื่อตรวจสอบแผนฟื้นฟูและแนวทางการชำระเงินคืน ขณะเดียวกัน ได้สั่งการศูนย์วิเคราะห์ทางการเงินของกรมแจ้งไปยังสหกรณ์ต่างๆ ให้รายงานผลการตรวจสอบว่าสหกรณ์ใดเอาไปให้ที่ไหนกู้บ้าง แล้วให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าสหกรณ์ที่รับเงินกู้ เงินฝากไปแล้วเอาเงินไปลงทุนอย่างไรต่อ เพื่อให้สหกรณ์ได้ดูแลลูกหนี้ตัวเองว่ามีความสามารถในการจ่ายหนี้คืนได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ.