(เทวินทร์ วงศ์วานิช)
ปตท.เผยผลประกอบการธุรกิจรวมบริษัทในเครือ ปี 60 มีรายได้ 1.99 ล้านล้านบาท กำไรสุทธิ 1.3 แสนล้านบาท และเฉพาะของ ปตท.มีกำไร 7.4 หมื่นล้านบาท ทุ่ม 1.38 หมื่นล้าน ซื้อหุ้น “ไออาร์พีซี” จากแบงก์ออมสิน จำนวน 9.45% ในราคาหุ้นละ 7.10 บาท ส่งผลให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 48.05% เตรียมดันกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นปีหน้า
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการของ ปตท. ปี 2560 ว่า มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1.559 ล้านล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน 74,552 ล้านบาท และเมื่อรับรู้ผลกำไรของบริษัทในกลุ่มตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 60,628 ล้านบาท ทำให้งบการเงินรวมของ ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1.996 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.1% และมีกำไรสุทธิรวม 135,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 42.9% คิดเป็นกำไร 46.74 บาทต่อหุ้น
นายเทวินทร์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญประกอบด้วย ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น น้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 41.3 เป็น 53.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 28.8% และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ทำให้ ปตท.สามารถ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สร้างกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) สูงถึง 30,000 ล้านบาท ทั้งการเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายดำเนินการและค่าใช้จ่ายลงทุน
นอกจากนี้ ยังมีรายรับเงินปันผลและกำไรจากการจำหน่ายหน่วยลงทุนได้แก่ หน่วยลงทุนในกองทุนดัชนีพลังงานและปิโตรเคมี (EPIF) และหุ้นของบริษัทเอสพีอาร์ซี จำกัด (มหาชน) รวม 6,800 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าในช่วงปลายปี ทำให้มีกำไรทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน 13,700 ล้านบาท
“ผลประกอบการที่ดีขึ้น จึงเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ดี และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทั้งกลุ่ม ปตท. ประสบผลสำเร็จ เห็นได้จากการเดินเครื่องของทุกหน่วยการผลิตสูงขึ้น โดยไม่มีการหยุดชะงัก ที่สำคัญแม้ว่าค่าการตลาดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และการบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมันจะลดลงจากปีก่อน 9,100 ล้านบาท โดย ปตท. จะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อจ่ายเงินปันผลรวม สำหรับผลการดำเนินงานปี 2560 ในอัตรา 20 บาทต่อหุ้น ซึ่งกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และกองทุนวายุภักษ์จะได้รับเงินปันผลรวม 36,700 ล้านบาท และเมื่อรวมกับภาษีเงินได้นิติบุคคลของ ปตท. และบริษัทในเครืออีก 34,600 ล้านบาท รวมเป็นรายได้นำส่งรัฐจากกลุ่ม ปตท. สำหรับผลประกอบการปี 2560 รวม 71,300 ล้านบาท”
นายเทวินทร์ กล่าวว่า ทาง ปตท.ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาที่ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จากธนาคารออมสิน 1,950,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นสัดส่วน 9.54% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ IRPC ในราคาหุ้นละ 7.10 บาท รวมเป็นมูลค่า 13,845,000,000 บาท ผ่าน ตลท. ส่งผลถือหุ้นเพิ่มเป็น 48.05%
สำหรับความคืบหน้าในการโอนทรัพย์สินให้กับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด หรือ PTTOR อยู่ระหว่างเตรียมการคัดเลือกทรัพย์สินที่จะโอนให้ PTTOR คาดจะเริ่มโอนทรัพย์สินบางส่วนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อสามารถพัฒนาโลโก้ที่เป็นอัตลักษณ์ของ PTTOR เป็นสมบัตินำไปต่อยอดในผลิตภัณฑ์หรือสินค้าอื่นๆได้ในระยะยาว และคาดว่าจะสามารถยื่นคำเสนอรายการจดทะเบียน (ไฟลิ่ง) ได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีไอ) กระจายหุ้นได้ช่วงครึ่งหลังของปี 2562.