นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) เปิดเผยว่า กรมฯอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการเปิดประมูลปิโตรเลียมรอบที่ 23 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2561 โดยการประมูลรอบใหม่นี้จะเป็นการเปิดให้สำรวจปิโตรเลียมทั้งบนบกและในทะเล โดยมาจากพื้นที่บางส่วนใน 29 แปลง ที่เคยมีการลงพื้นที่สำรวจก่อนหน้านี้ โดยการเปิดประมูลปิโตรเลียมรอบที่ 23 จะดำเนินการต่อจากการเปิดประมูลรอบที่ 22 ใน 2 แหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย คือ เอราวัณและบงกชที่คาดว่าจะประมูลแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561
สำหรับรูปแบบที่จะใช้ในการสำรวจปิโตรเลียมรอบที่ 23 จะยึดตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาที่กำหนดให้แต่ละพื้นที่ต้องดำเนินการในรูปแบบต่างๆ ตามที่ได้กำหนดไว้แล้วในประกาศ โดยพื้นที่แหล่งปิโตรเลียมบนบก ส่วนใหญ่กำหนดให้ดำเนินการในรูปแบบสัมปทาน ขณะที่การสำรวจในทะเลส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบแบ่งปันผลประโยชน์ (พีเอสซี) และหากไม่มีผู้ดำเนินการแล้ว รัฐจะเข้าไปดำเนินการโดยการใช้ระบบจ้างบริการ (เอสซี)
“พื้นที่ส่วนใหญ่ที่คาดว่ามีศักยภาพและอาจจะเปิดได้ในรอบที่ 23 คือพื้นที่บนบก ส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อุดรธานี และบุรีรัมย์ และภาคกลาง ได้แก่จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก มีโอกาสพบก๊าซธรรมชาติประมาณ 20-30% ต่อแปลง โดยการเปิดสำรวจรอบที่ 23 อาจมีแปลงสำรวจน้อยกว่า 29 แปลง เพราะต้องการเลือกแปลงที่มีศักยภาพสูงสุด และบางแปลงในทะเลอันดามันอาจไม่เปิด” ทั้งนี้กรมฯ มีความกังวลในประเด็นการยอมรับของภาคสังคมและประชาชน เพราะที่ผ่านมาเกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างคนในพื้นที่กับผู้ดำเนินงานมาตลอด ดังนั้น จึงจัดตั้งภาคีเครือข่ายมีผู้นำชุมชนเข้าร่วมเป็นกรรมการเพื่อสร้างความเข้าใจในพื้นที่.