“พีทีจี” จ้องซื้อธุรกิจเพิ่ม 2 ราย ลดความเสี่ยงจากธุรกิจน้ำมัน

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า คาดว่าผลการดำเนินการ 9 เดือนแรกของปีนี้ จะชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 10% เนื่องจากค่าการกลั่นที่อยู่ระดับต่ำ และยอดขายน้ำมันไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่คาดว่าในไตรมาส 4 ปีนี้ ผลงานจะกลับมาทำนิวไฮแน่นอน เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการใช้น้ำมัน และมองว่าค่าการตลาดจะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ที่ 1.70-1.80 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปีนี้มั่นใจว่ารายได้จะเติบโตต่อเนื่องมาอยู่ที่ 90,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิปีนี้ยังสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าสิ้นปีจะมีสถานีบริการน้ำมันทั้งสิ้น 1,800 สาขา จากปัจจุบันที่ 1,400 สาขา ขณะที่เดินหน้าเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทย โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาครบ 200 สาขา จากปัจจุบัน 107 สาขา

สำหรับการขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil) ที่ผ่านมาบริษัทตั้งงบลงทุนซื้อกิจการประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เหลือเงินอีก 500 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาควบรวมกิจการอีก 1-2 ราย คาดว่า จะได้ความชัดเจนในปีนี้ ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายขยายธุรกิจ non-oil อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าลงทุนเพิ่มขึ้น 2-3 ธุรกิจต่อปี ช่วยเพิ่มสัดส่วนกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องปีละ 6-8% และภายในปี 65 คาดสัดส่วนกำไรจากธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 60% จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 8-10% ซึ่งถือเป็นการบริหารความเสี่ยงของบริษัท เพราะจะหวังพึ่งพากำไรจากธุรกิจน้ำมันอย่างเดียวคงไม่ได้
นายพิทักษ์กล่าวถึงการขยายธุรกิจของ AUTOBACS ปีนี้ตั้งงบลงทุน 100 ล้านบาท ขยายสาขา 10 สาขา ขณะที่ในช่วง 5 ปี ตั้งงบลงทุน 1,400 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีสาขาทั้งสิ้น 240 สาขา.