น.พ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือกสทช. เปิดเผยหลังการประชุมบอร์ดวันที่ 19 ก.พ. 2568 ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาว่าน.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกสทช. ในฐานะจำเลย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 คดีบริษัททรู ดิจิทัล กรุ๊ปฟ้องข้อหากลั่นแกล้ง ระบุ ที่ประชุมไม่มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาหารือ น.ส.พิรงรองเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ รวมทั้งเข้าประชุมบอร์ด ตนในฐานะประธานจะไม่นำเรื่องดังกล่าวเข้ามาพิจารณาในบอร์ด และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีบอร์ดคนใด เสนอให้นำคดีความของน.ส.พิรงรองเข้าสู่การประชุมด้วย
ด้านน.ส.พิรงรอง เปิดเผยว่า ภายใต้พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฯ พ.ศ. 2553 ตามมาตรา 7 และมาตรา 20 ตนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่ขัดต่อกฎหมาย ส่วนการพิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องกับทรู ในฐานะโจทก์ยื่นฟ้องตนนั้น ต้องพิจาณาภายใต้พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
ขณะที่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า คดีความดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างน.ส.พิรงรองกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ไม่เกี่ยวกับสำนักงานกสทช. โดยการจะดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ สำนักงานต้องได้รับคำสั่งจากบอร์ดเท่านั้น