คิดแบบ MrBeast ผลิตคอนเทนต์อย่างไรให้เป็นธุรกิจ ทำเงินได้หลายร้อยล้านต่อปี

Business & Marketing

Corporates

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คิดแบบ MrBeast ผลิตคอนเทนต์อย่างไรให้เป็นธุรกิจ ทำเงินได้หลายร้อยล้านต่อปี

Date Time: 14 ต.ค. 2567 10:00 น.

Video

ดร.พิพัฒน์ KKP กระเทาะโจทย์เศรษฐกิจไทย บุญเก่าเจอความเสี่ยง บุญใหม่มาไม่ทัน

Summary

  • ความยูนีคของคลิปวิดีโอที่ผลิตขึ้นมาช่วยผลักดันให้ MrBeast สามารถสร้างอาณาจักรคอนเทนต์ จนเกิดเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่างไม่เหมือนใคร บทความนี้ Thairath Money คอลัมน์ How to Make Money จะพาไปเจาะโมเดลธุรกิจของ MrBeast ว่าเขาทำอย่างไร มีแนวคิดแบบไหน? ถึงทำให้ทุก ๆ คอนเทนต์ที่รังสรรค์ออกมาสามารถสร้างรายได้ได้จำนวนมหาศาลต่อปี

Latest


เชื่อว่าหลายคนต้องเคยดูคลิปวิดีโอบน YouTube ของช่อง “MrBeast” ที่มักจะเสนอวิดีโอผ่านเกมชาเลนจ์สนุก ๆ ในบางครั้งก็ออกมาแจกเงิน แจกรถ ไปจนถึงบริจาคสิ่งของมีค่าให้กับคนแปลกหน้า ซึ่งคอนเทนต์รูปแบบนี้ทำให้มีผู้คนเข้าไปติดตามช่องของ MrBeast หลายร้อยล้านบัญชี และมียอดผู้ชมคลิปหลักร้อยล้านในทุกคลิปเช่นกัน จนเรียกได้ว่าเป็น YouTuber ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคนหนึ่ง

ความยูนีคของคลิปวิดีโอที่ผลิตขึ้นมาช่วยผลักดันให้ MrBeast สามารถสร้างอาณาจักรคอนเทนต์ จนเกิดเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ในบทความนี้ Thairath Money คอลัมน์ How to Make Money จะพาไปเจาะโมเดลธุรกิจของ MrBeast ว่าเขาทำอย่างไร มีแนวคิดแบบไหน? ถึงทำให้ทุก ๆ คอนเทนต์ที่รังสรรค์ออกมาสามารถสร้างรายได้ได้จำนวนมหาศาลต่อปี

กว่าจะมาเป็น MrBeast

James Stephen “Jimmy” Donaldson หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “MrBeast” เป็น YouTuber ชื่อดังชาวอเมริกัน อายุ 26 ปี ขวัญใจของใครหลายคน ปัจจุบันบนช่องของ MrBeast มีผู้ติดตามอยู่กว่า 319 ล้านราย และแต่ละคลิปก็มียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านวิว โดยคลิปที่มียอดผู้ชมสูงสุดกว่า 658 ล้านวิว

จุดเริ่มต้น MrBeast เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2012 ที่ช่อง YouTube ชื่อ “MrBeast” ได้เปิดตัวออกมา โดยในช่วงแรกเป็นของส่วนตัวของ Jimmy ที่เขาได้ออกมาเผยแพร่วิดีโอของตัวเอง ทั้งสตรีมเกม และโชว์เล่นวิดีโอเกมต่าง ๆ แต่คลิปแรกที่ทำให้ช่อง MrBeast กลายเป็นไวรัล คือ คลิปนับเลขตั้งแต่ 1-100,000 ที่เขาเผยแพร่ในปี 2017 จนทำให้ช่อง MrBeast มียอดผู้ติดตามแตะ 1 ล้าน

จากคลิปนับเลข MrBeast เริ่มเข้าใจการทำงานของอัลกอริทึม และความชอบของผู้ชมมากขึ้น จึงมีคลิปในรูปแบบที่คล้ายคลึงกันออกมาเรื่อย ๆ จนทำให้มีผู้เข้าชมคลิปในช่อง MrBeast รวมกว่า 18,000 ล้านวิว มียอดไลค์ของคลิปเฉลี่ยที่ 4.2 ล้านครั้ง จนเกิดเป็นไอเดียเปิดช่องอื่น ๆ ตามมาอีก 4 ช่อง ได้แก่ MrBeast Gaming, Beast Philanthropy, Beast Reacts และ MrBeast 2 ซึ่งทั้งสี่ช่องนี้ก็มีผู้ติดตามรวมกันอยู่อีกกว่า 152 ล้านคน

นอกจากนี้ ในปี 2021 MrBeast ได้ขึ้นแท่นเป็น YouTube Creator ที่มีรายได้สูงที่สุด โดยในปีนั้นเขามีรายได้อยู่ที่ 54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และล่าสุดของปี 2024 มีคาดการณ์ออกมาว่า MrBeast จะทำรายได้กว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือจะโตขึ้นจากปี 2023 ที่ทำได้ 223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากถึง 3 เท่าตัว

ได้รับรางวัล Creator of the Year ครีเอเตอร์ยอดเยี่ยมแห่งปีจากงาน Streamy Awards ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ 2020-2023 และยังได้รับรางวัล Favorite Male Creator ครีเอเตอร์ขวัญใจเด็ก ๆ จาก Nickelodeon Kids' Choice Awards ตั้งแต่ปี 2022-2024 อีกด้วย

ปัจจุบัน กลุ่มผู้ชมคอนเทนต์ส่วนใหญ่ของ MrBeast มีอายุต่ำกว่า 30 ปี และคลิปวิดีโอบน YouTube ยังมีพากย์ภาษาอื่น ๆ อีก 15 ภาษา ซึ่งรวมไปถึงภาษาไทยด้วยเช่นกันทำให้แฟนคลับทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ

กลยุทธ์ทำคอนเทนต์ฉบับ MrBeast

เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันดีว่า การจะสร้างสรรค์คอนเทนต์ไม่ว่าจะในรูปแบบใด ออกมาให้ผู้ติดตามเข้าถึงได้หลายร้อยล้านคนในระยะเวลาอันสั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กลยุทธ์ที่ MrBeast ได้เรียนรู้ตลอดระยะเวลาที่เป็น YouTuber นั้น ทำให้ทุกวันนี้ยอดวิวคอนเทนต์ของ MrBeast แตะหลักล้านไวในไม่กี่ชั่วโมง

โดย MrBeast มีกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ดังนี้

  • เกาะเทรนด์ ตามให้ทันกระแส: ความน่าสนใจของคลิปที่เผยแพร่บนช่อง MrBeast คือ มักจะจับเอาเทรนด์ ณ เวลานั้น ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมมานำเสนอผ่านเกมโชว์หรือชาเลนจ์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การดึงเอาเนื้อหาในซีรีส์ Squid Game มาทำเป็นเกมให้คนมาร่วมเล่นกันจริง ๆ จนคลิปดังกล่าวมียอดผู้ชมมากถึง 658 ล้านวิว

    บางครั้งก็มีการจับมือกับเซเลบริตี้ หรือคนดังในโลกออนไลน์ ให้มาเข้าร่วมในการทำคอนเทนต์ เป็นการดึงแฟนคลับจากครีเอเตอร์รายอื่นให้มาทำความรู้จักและติดตามช่องของ MrBeast มากขึ้น

  • ทุ่มเงิน พร้อมขายดราม่า: จะเห็นว่าในหลาย ๆ คอนเทนต์ MrBeast จะมีการวางเงินรางวัล หรือเงินเดิมพันของเกมไว้จำนวนมาก ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักร้อยล้านดอลลาร์ และนอกจากเงินแล้ว ยังมีการแจกบ้านหรือรถหรูให้ผู้ที่ชนะการเล่นเกมด้วยเช่นกัน ซึ่งการทุ่มเงินทุนจำนวนมากมายขนาดนี้ย่อมทำให้ผู้ชมหลายคนสนใจ

    อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งที่เราจะเห็นว่าคอนเทนต์ MrBeast ไม่ได้มีแค่แจกเงินให้กับคนทั่วไป แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของผู้ร่วมรายการหลายคนก็สร้างความน่าสนใจให้กับคอนเทนต์ที่ทำ และทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า คน ๆ นั้นควรค่าแก่การได้รับรางวัลนั้นจริง

    นอกจากนี้ MrBeast ยังเรียกตัวเองว่าเป็น “Philanthropy Enthusiast” หรือ “ผู้ที่ชื่นชอบการทำบุญ” โดยเข้าไปช่วยสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ทำสาธารณะประโยชน์ และตอบแทนคืนให้กับสังคม

  • ทำชาเลนจ์ที่ทั้งคนเล่น และคนดูได้เข้าร่วม: ด้วยรูปแบบของคอนเทนต์ที่เป็นการท้าทายให้เล่นเกมต่าง ๆ เพื่อรับรางวัลเป็นของมีค่า ส่งผลให้คลิปวิดีโอได้รับความนิยมอย่างมาก โดยผู้ชมมองว่า เป็นสิ่งให้ความบันเทิงและมีเนื้อหาที่ต้องติดตามต่อเนื่อง เพื่อให้รู้ผลลัพธ์ว่ารางวัลจะตกเป็นของใคร

    นอกจากนี้ ลักษณะเนื้อหาของ MrBeast ยังมีความตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย จนไม่ว่าจะคนรุ่นไหนก็เข้าใจได้ง่าย ๆ และบางครั้งยังมีการสุ่มแจกรางวัลให้กับผู้ที่กดติดตามช่อง YouTube อีกด้วย ซึ่งเป็นการแสดงออกว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหรือผู้ชม ก็สามารถร่วมสนุกกับช่องได้นั่นเอง

  • แบรนด์ต้องชัดเจน และผลิตให้บ่อย: อีกหนึ่งกลยุทธ์ความสำเร็จของ MrBeast คือ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่ตอนนี้เราแค่เห็นภาพหน้าปกของคลิป ก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นคลิปของใคร ตัวตนนี้ MrBeast ไม่ได้สร้างมาเพื่อแค่ดึงผู้ติดตาม แต่เป็นกลยุทธ์การสร้างภาพจำให้กับแบรนด์

    นอกจากนี้ การเผยแพร่คอนเทนต์จะต้องมีความต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันช่องหลักของ MrBeast มีคลิปวิดีโออยู่กว่า 820 คลิป โดยจะมีการโพสต์คลิปยาวที่เดือนละประมาณ 2 ตัว การเผยแพร่ที่ต่อเนื่องจะช่วยให้ผู้ชมติดตามได้ง่าย และอัลกอริทึมจะช่วยดันคลิป

โมเดลทำเงินของ MrBeast

โมเดลธุรกิจของ MrBeast เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีความยั่งยืน คือ สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำคอนเทนต์ที่ตรงตามความต้องการของผู้ชม และมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาตามเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากการผลิตคอนเทนต์ ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ MrBeast และสามารถทำรายได้มหาศาล โดยโมเดลทำเงินของธุรกิจ MrBeast มีดังนี้

– ทำเงินจากโฆษณาบน YouTube –

เช่นเดียวกับ YouTuber คนอื่น ๆ รายได้ส่วนใหญ่ของ MrBeast มาจากโฆษณาที่เล่นบน YouTube ในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังคลิป ด้วยจำนวนผู้ชมหลายล้านคน ทำให้มีโฆษณามากมายต้องการที่จะมาร่วมทำธุรกิจด้วย และ MrBeast ก็สามารถสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มนี้มหาศาล

จากข้อมูลของ Marca พบว่า ในปี 2021 ทาง MrBeast สามารถทำเงินจากโฆษณาบน YouTube ได้เดือนละประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

– ทำเงินจากสปอนเซอร์และพาร์ทเนอร์ –

นอกจากเงินจากโฆษณาแล้ว ในคลิปวิดีโอที่เรารับชมบางครั้งก็มีพาร์ทเนอร์หรือแบรนด์ต่าง ๆ มาให้การสนับสนุน โดยการนำเสนอของ MrBeast จะผสานความยูนีคของรูปแบบคอนเทนต์ตัวเองเข้ากับคุณค่าของแบรนด์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ได้รับความเชื่อมั่นจากแบรนด์ต่าง ๆ

ซึ่งแบรนด์ที่ต้องการจะร่วมงานกับ MrBeast ก็พร้อมที่จะจ่ายให้ที่ประมาณ 2.5-3 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวิดีโอเลยทีเดียว

– ทำเงินจากการขายสินค้าแบรนด์ MrBeast –

จากความสำเร็จของคลิปวิดีโอ ด้วยจำนวนผู้ติดตามที่ล้นหลาม และความต้องการที่จะสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ทำให้เกิดเป็นไอเดียออกแบบสินค้าแบรนด์ MrBeast ขายอยู่บน MrBeast Store แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ขายเฉพาะสินค้าของแบรนด์ มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า อุปกรณ์กีฬา สเก็ตบอร์ด ไปจนถึงอุปกรณ์การเรียน

สินค้าแบรนด์ MrBeast คือตัวตอกย้ำความภักดีต่อแบรนด์จากแฟนคลับทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ไม่มีตัวเลขออกมาชัดเจนว่าแพลตฟอร์มขายสินค้าทำรายได้ที่สัดส่วนเท่าใด แต่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจของ MrBeast น่าสนใจ

– ทำเงินจากงานอีเวนต์และแฟนมีต –

จะอยู่แค่ในโลกออนไลน์อย่างเดียวก็ไม่ได้แล้ว ตามแนวคิดของ MrBeast ที่นอกจากจะทำแค่คลิปวิดีโอ ก็ยังมีการจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อพบปะกับแฟนคลับ จัดกิจกรรมแจกรางวัล และเปิดพื้นที่ให้ผู้ติดตามได้ร่วมสนุก

ในการจัดอีเวนต์ก็นำไปสู่รายได้อีกช่องทาง ทั้งจากการจำหน่ายตั๋วเข้าชม จำหน่ายสินค้าของแบรนด์ตัวเอง ไปจนถึงสปอนเซอร์จากเจ้าอื่น ๆ ที่จะมาร่วมในงานอีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีการทางตลาดอีกหนึ่งอย่างที่จะนำพาไปสู่การร่วมมือกันที่ยาวนานขึ้นกับพาร์ทเนอร์ พร้อมกับสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับแฟนคลับ

– ทำเงินจากการขายไลเซนส์ให้สื่ออื่น ๆ –

นอกจากช่อง YouTube แล้ว MrBeast ยังขยายธุรกิจไปสู่การขายไลเซนส์คอนเทนต์ของตัวเอง ให้กับพันธมิตรกับสื่อเจ้าอื่น ด้วยการให้สิทธิ์เนื้อหาไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม ไปจนถึงร่วมมือกับสื่อดั้งเดิม ซึ่งวิธีนี้ส่งผลให้ MrBeast สามารถเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ และสร้างรายได้ได้เพิ่มเติม

นอกจากนี้ ความร่วมมือกับสื่ออื่น ยังเปิดโอกาสให้ MrBeast ได้สำรวจแนวคิดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ไปพร้อม ๆ กับเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินทางปัญญาของคอนเทนต์ตัวเองให้ได้มากที่สุด


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ