ชื่อชั้นของ “ยอด ชินสุภัคกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์แมน วงใน (LINE MAN Wongnai) ไม่เคยเป็นที่กังขา ทั้งในฐานะสตาร์ตอัพ ย้อนกลับไปในปี 2553 เมื่อเขาและเพื่อนรวม 5 ชีวิต ศิษย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ เอกคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท วงใน มีเดีย จำกัด ภายใต้ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ริเริ่มทำเว็บไซต์ ค้นหา รีวิวร้านอาหารใช้เชื่อว่า Wongnai จนมาถึงวันที่ขยับขึ้นเป็นซีอีโอของ “ไลน์แมนวงใน” ซูเปอร์แอปที่มีมูลค่าปัจจุบันมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขึ้นทำเนียบสตาร์ตอัพระดับยูนิคอร์น ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังมีไม่กี่รายในประเทศไทย
ไอเดียธุรกิจเกิดขึ้นสมัยที่คุณยอดไปศึกษาระดับปริญญาโทที่ UCLA Anderson School of Management ในอเมริกา และได้ใช้งานเว็บไซต์ Yelp.com เพื่อค้นหาร้านอาหาร จึงเห็นโอกาสว่ายังไม่มีบริการแบบนี้ในไทย แต่ในปี 2553 สมาร์ทโฟนยังไม่แพร่หลาย วงในจึงเริ่มต้นอย่างยากลำบาก กลุ่มผู้ก่อตั้งต้องไปรับจ๊อบเขียนโปรแกรม หารายได้เสริม หลายครั้งไม่ได้รับเงินเดือนเพราะบริษัทมีรายได้ไม่พอ
โชคดี...1-2 ปีจากนั้น ความนิยมในสมาร์ทโฟนเริ่มก่อตัว ประกอบกับมีนักลงทุนเห็นศักยภาพ วงในได้รับการอัดฉีดเงินเข้ามาใช้พัฒนาโปรดักส์ สร้างการเติบโตก้าวกระโดด มีผู้ใช้งานเพิ่มเป็นหลักล้าน ปริมาณรีวิวโตเท่าตัว จนสบช่องขยายบริการสู่หัวเมืองใหญ่ และเพิ่มบริการหลากหลาย เช่น Wongnai Travel, Wongnai x LINE MAN เป็นต้น จนได้รับเงินลงทุนก้อนใหญ่จากกลุ่มอินทัช (InTouch) อีกครั้งในปี 2549 แต่จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ในปี 2563 กับเงินลงทุนมูลค่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากบริษัท BRV Capital Management นำไปสู่การควบรวมกิจการระหว่างไลน์แมนและวงใน โดยผู้ถือหุ้นมีมติตั้ง “ยอด ชินสุภัคกุล” ให้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทที่เกิดจากการควบรวม ชื่อ “ไลน์แมนวงใน”
เกิดและเติบโตจากครอบครัวค่อนข้างมีฐานะ คุณพ่อทำธุรกิจส่วนตัว ขณะที่คุณยอดเลือกเดินในเส้นทางที่แตกต่างและเป็นของตัวเอง เมื่อถามว่า “เป็นที่ภูมิใจ” ของครอบครัวหรือไม่ คุณยอดบอก เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะมีการแชร์ข่าวสารของคุณยอดที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ จากญาติพี่น้อง ผ่านไลน์ครอบครัวให้คุณพ่อ-คุณแม่ได้เห็นเสมอ
ทำหน้าที่ “ผู้นำ” ตั้งแต่ Day 1 จนบัดนี้ คุณยอดเล่าว่า ทุกอย่างหล่อหลอมให้ชอบตัวเองในทุกจังหวะชีวิต แม้เขาในวันนี้จะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเขาในอดีต ตอนเริ่มก่อตั้งวงใน โฟกัสอยู่ที่ตัวเอง จะทำอย่างไรให้มีรายได้เลี้ยงตัว ไปได้รอด พอวงในโตขึ้นมาระดับหนึ่ง โฟกัสเปลี่ยนเป็นให้ความสำคัญกับทีม พนักงาน หาหนทางที่จะดึงดูดคนเก่งๆ ให้เข้ามาทำงานกับวงใน สร้างการเติบโตให้ได้ “พอมาถึงยุค “ไลน์แมนวงใน” เราเปลี่ยนจากการเป็นปลาใหญ่ในบึงเล็ก สู่ปลาเล็กในบึงใหญ่ อยู่ในสปอร์ตไลท์มากขึ้น สิ่งที่เราทำมีผลกระทบต่อคนอื่นๆมากขึ้น เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจในประเทศ ความรับผิดชอบในใจของผม จึงเปลี่ยนไปตามขนาดของบริษัท ตอนนี้ Less About ตัวเรา แต่ More About ภาพรวม”
ภายในปีหน้า 2568 คุณยอดและไลน์แมนวงใน จะมีจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง ภายใต้เป้าหมายกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เงินที่จะได้จากการระดมทุนครั้งใหญ่ในปีหน้า จะถูกนำมาใช้ขยายธุรกิจทั้ง 3 ขาของไลน์แมนวงใน ตั้งแต่ On Demand Service คือ ส่งอาหาร ส่งสินค้า ขนส่ง, Merchant Solution ระบบหลังบ้านร้านอาหาร ซึ่งต้องทำให้ใหญ่กว่านี้ และบริการระบบชำระเงินและการเงิน Payment & Finance ซึ่งที่ผ่านมา LINEPay มีผู้ใช้มากขึ้น แต่ต้องขยายต่อเพราะยังเทียบไม่ได้กับทรูมันนี่หรือแอปธนาคาร
หาก IPO (การเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน) ของไลน์แมนวงในประสบความสำเร็จ ได้ราคาดี ก็อาจสร้างความตื่นตัวให้กับตลาดทุน ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย พนักงาน หรือคนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมขายได้ดีมากขึ้น “เรายังอยากเป็นสตาร์ตอัพที่เป็นตัวอย่างให้กับรุ่นหลังๆ เป็นกรณีสำเร็จหรือ Success Case สิ่งนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในใจผมเสมอ”
กับคำถามบังคับ Business on My way ในนิยามของคุณยอดคืออะไร เขาบอกมีอยู่ 3-4 คุณลักษณะ ที่คิดว่าทำให้มาถึงวันนี้ นั่นคือความติดดิน (Down to Earth), มุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ (Result Orien ted), มุ่งมั่น จริงจัง (Focus) และไม่ยอมแพ้ “เคยมีคนบอกว่าผมเป็นก้อนหินผูกโบ ตรง แข็งแต่อ่อนในบางมุม ทุบในบางครั้ง แต่ก็ยืดหยุ่นและเข้าใจ”
“มาถึงวันนี้ (ในวัย 41 ปี) ผมแต่งงานแล้ว มีลูก 3 คน ผมมองตัวเองเป็นถังแก๊ส ตอนโสดเคยเปิดอยู่เตาเดียวคือเตาทำงาน แต่ตอนนี้กำลังพยายามเปิดให้ได้ 4 เตา ตั้งแต่ งาน ครอบครัว สุขภาพ และเพื่อนฝูง รู้สึกว่าเปิดได้แค่ 3 เตา ยังเหลือเตาเพื่อนฝูง จะต้องเปิดให้มากขึ้น Balance ให้ดีขึ้น”.
เลดี้แจน
คลิกอ่านคอลัมน์ “Business On My Way” เพิ่มเติม