“Seven & i” เจ้าของ 7-Eleven ทั่วโลก กำลังวิกฤติ? ทำไมยักษ์ใหญ่แคนาดา เสนอดีลเข้าซื้อกิจการ

Business & Marketing

Corporates

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

“Seven & i” เจ้าของ 7-Eleven ทั่วโลก กำลังวิกฤติ? ทำไมยักษ์ใหญ่แคนาดา เสนอดีลเข้าซื้อกิจการ

Date Time: 20 ส.ค. 2567 16:20 น.

Video

RAVIPA จิวเวลรี่ มู มินิมอล ปั้นแบรนด์ไทยบนเวทีโลก | On The Rise

Summary

  • Alimentation Couche-Tard เจ้าของเครือร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำจากแคนาดา ยื่นข้อเสนอดีลใหญ่ ขอเข้าซื้อกิจการของ Seven & i Holdings เจ้าของ 7-Eleven เชนร้านสะดวกซื้อสัญชาติญี่ปุ่นอันดับหนึ่งที่มีสาขาเยอะที่สุดในโลก โดยดีลนี้จะมีมูลค่าอยู่ที่ 5.63 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นดีลเข้าซื้อกิจการญี่ปุ่นครั้งที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาโดยบริษัทต่างชาติ

Latest


Alimentation Couche-Tard บริษัทสัญชาติแคนาดา เจ้าของเครือร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมันชื่อดังอย่าง Couche-Tard, Circle K และ Ingo ที่มีสาขารวมกว่า 16,700 สาขาให้บริการอยู่ทั่วโลก ยื่นข้อเสนอดีลใหญ่ ขอเข้าซื้อกิจการของ “Seven & i Holdings” เจ้าของ 7-Eleven เชนร้านสะดวกซื้อสัญชาติญี่ปุ่นอันดับหนึ่งที่มีสาขาเยอะที่สุดในโลก

Seven & i ออกมายืนยันว่า Alimentation Couche-Tard ได้มีการยื่นข้อเสนอมาจริง โดยจะขอเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ โดยทาง Seven & i ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาข้อเสนออย่างละเอียด ซึ่งรวมไปถึงมูลค่าทั้งหมดของดีลนี้ด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการเปิดเผยมูลค่าของข้อเสนอ

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากข้อเสนอครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ดีลนี้จะมีมูลค่าอยู่ที่ 5.63 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเป็น “ดีลเข้าซื้อกิจการญี่ปุ่นครั้งที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาโดยบริษัทต่างชาติ” และเป็น “การเข้าซื้อกิจการระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด” ในปีนี้ด้วย

ปัจจุบัน Seven & i คือเครือร้านสะดวกซื้ออันดับหนึ่ง โดยมีสาขาของร้าน 7-Eleven จำนวนกว่า 85,000 สาขาในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป ซึ่งนับเป็นตลาดเดียวกับ Alimentation Couche-Tard นอกจากนี้ 7-Eleven ยังมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 10,000 ร้านค้าใน 30 ประเทศภายในปี 2030 ซึ่งนั่นแปลว่า 7-Eleven อาจมีสาขาเกือบแสนร้านในอนาคต โดยหลังจากมีการเปิดเผยดีลดังกล่าว หุ้นของ Seven & i ในตลาดโตเกียวพุ่งขึ้น 23% ดันมูลค่าบริษัทฯ ไปเป็น 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม Alimentation Couche-Tard ปัจจุบันมีมูลค่าที่สูงกว่า Seven & i อยู่ที่ 5.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

Couche-Tard จะกลายเป็นเชนร้านสะดวกซื้ออันดับหนึ่ง

Alimentation Couche-Tard กลายเป็นเครือข่ายร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมันระดับโลกจากการขยายธุรกิจซึ่งมีแนวทางกว้านซื้อกิจการ โดยในตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา Alimentation Couche-Tard ได้เข้าซื้อกิจการร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง ซึ่งรวมไปถึงความพยายามก่อนหน้านี้ที่จะเข้าซื้อ Seven & i เมื่อปี 2020 และห้าง Carrefour เมื่อปี 2021 แต่ด้วยนโยบายจากรัฐบาลฝรั่งเศสทำให้ดีลนี้ไม่ประสบความสำเร็จ

แม้ว่า Alimentation Couche-Tard จะมีสาขาร้านสะดวกซื้อน้อยกว่า 7-Eleven แต่หากมาดูกันที่ยอดขายนับว่าน่าสนใจทีเดียว โดยยอดขายในปีนี้คำนวณถึงเดือนเมษายน 2024 อยู่ที่ 6.92 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แตกต่างไม่มากจากยอดขายของ Seven & i ที่ 7.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหาก 2 บริษัทนี้รวมกัน ยอดขายรวมก็จะอยู่ที่ประมาณ 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะทำให้ Alimentation Couche-Tard กลายเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก

7-Eleven และความท้าทายของร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น

7-Eleven มีรายได้จากร้านในประเทศญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ลดลง 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ยอดขายของสาขาเดิมก็ลดลง 0.6% ติดต่อกันสองเดือนแล้ว ในขณะที่รายได้รวมจากการดำเนินการของร้านค้าในต่างประเทศ แม้จะโตขึ้น 70% แต่กำไรกลับลดลง 80% โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเงินเฟ้อ ที่ส่งผลให้ยอดขายของสาขาเดิมลดลงติดต่อกัน 11 เดือน

นอกจากนี้ Seven & i ยังได้รับแรงกดดันจากกลุ่มนักลงทุนที่กำลังขายสินทรัพย์ประสิทธิภาพต่ำ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์ 7-Eleven ของญี่ปุ่นลดลง อีกทั้งญี่ปุ่นยังเผชิญกับปัญหา “ผู้สูงอายุล้นเมือง” จนทำให้ต้องปรับกลยุทธ์ บางสาขาไร้พนักงานมาบริการ ปรับระยะเวลาเปิดบริการลง และเปลี่ยนมาเปิดในพื้นที่ชุมชนเพื่อเข้าถึงลูกค้าแทน

ดีลดังกล่าวยังคงมีความกังวลในเรื่องของสินค้าภายในร้านค้าของ Seven & i ที่จะมีความแตกต่างกันกับในเครือของ Alimentation Couche-Tard โดย 7-Eleven จะเน้นไปที่สินค้าหลากหลายแบบตั้งแต่ของใช้เล็ก ๆ ไปจนถึงเมนูอาหารพร้อมทาน บวกกับกฎเกณฑ์และนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่แม้จะลดความยุ่งยากในการเปิดให้บริษัทนอกเข้าซื้อกิจการในประเทศแล้ว แต่ยังคงมีความซับซ้อนอีกหลายด้าน

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์