ส่องเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2025 นี้ มีการท่องเที่ยวแบบไหนที่น่าจับตามอง หลังจากโรคระบาด คนให้ความใส่ใจกับการท่องเที่ยวยั่งยืน และเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงยังมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้การเดินทางนั้นเกิดขึ้นง่ายมากกว่าเดิม

ปี 2025 นับเป็นปีที่วงการท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังปรับตัว กลับมาฟื้นฟู และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไป

ตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวต้องการความสงบ และความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เนื่องจากความวุ่นวายจากโลก สังคม และหน้าที่การงาน, การท่องเที่ยวแบบ Digital Nomad ที่สามารถท่องเที่ยวไปทำงานไปได้แบบไม่ต้องกังวลผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงมีการท่องเที่ยวแบบใส่ใจความยั่งยืนมากขึ้นเนื่องจากโลกที่กำลังแปรปรวนในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา

เปิดเทรนด์ท่องเที่ยวที่น่าจับตามองในปี 2025

  • ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism)

ความยั่งยืนมีผลมาจากโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทำให้คนเกิดการปรับตัว และเป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานของโลกได้ และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจ การท่องเที่ยวยั่งยืน และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหันมาให้ความสำคัญกับการเดินทางที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและสร้างประโยชน์ และคุณค่าให้กับชุมชนมากขึ้น เช่น การเลือกที่พักที่ได้รับการรับรองด้านความยั่งยืน, การร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์, และการซื้อสินค้าจากชุมชน รวมถึงยังมีการลดการใช้พลาสติก, ใช้หลอดกระดาษ, ถุงผ้า และภาชนะที่ย่อยสลายได้ ซึ่งปัจจุบันเห็นได้มากมายอย่างแพร่หลายในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกจนกลายเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน

...

นอกจากนี้การเดินทางด้วยพลังงานสะอาด เข้ามาเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น การเลือกเดินทางโดยรถไฟ, รถบัส หรือเรือ เพื่อลดคาร์บอนที่เกิดขึ้น และบางบริการขนส่งสาธารณะเหล่านี้ยังใช้พลังงานสะอาด จึงเป็นสิ่งได้รับความนิยมมากขึ้น ณ ปัจจุบัน

  • ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness)

หลังจากโรคระบาดที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อทั้งทางกาย และใจทำให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การท่องเที่ยวที่จุดประกายขึ้นมาเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวสนใจ ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และจิตใจ หลังจากภาวะเครียด การทำงานหนัก ทำให้นักท่องเที่ยวต้องการหาประสบการณ์ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย และลดความเครียดด้วยการท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมฟื้นฟูเช่น การทำสปา, โยคะ, และกิจกรรมกลางแจ้ง

นอกจากนี้การเดินทางไปยังสถานที่ที่มีธรรมชาติบำบัด หรือการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสุขภาพ เช่น การปั่นจักรยาน, เดินป่า, และการทำอาหารเพื่อสุขภาพ ก็สามารถช่วยฟื้นฟูพลังงาน พลังใจให้กลับมามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • เทคโนโลยีกับบทบาทสำคัญในวงการท่องเที่ยว

ปัจจุบันไม่ว่าจะการจอง การวางแผนการเดินทางออนไลน์ มีทางเลือกที่น่าสนใจอยู่มากมายทั้ง แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ต่างๆ ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถกรองข้อมูลก่อนตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นจองตั๋วเครื่องบิน, ที่พัก, และกิจกรรมต่างๆ ได้ง่าย ราคาตามต้องการ และสะดวกมากขึ้น ทั้งหมดเกิดจากการใช้ AI ในการให้บริการ ที่มีให้เห็นเพิ่มขึ้น เช่น แชทบอทและระบบ AI ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รวมถึงการใช้ VR และ AR ในการท่องเที่ยวได้อย่างน่าสนใจโดยเทคโนโลยีเสมือนจริงช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินทางได้ก่อนตัดสินใจจองได้

  • ท่องเที่ยวแบบส่วนตัวและประสบการณ์

ทริปส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้น ผลพวงจากที่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย ทำให้การจองทริปท่องเที่ยวแบบส่วนตัวที่ถูกออกแบบมาตามความต้องการได้อย่างเต็มขีดความสามารถ และความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวแต่ละบุคคลจึงได้รับความนิยมมากขึ้น

นอกจากนี้ยังรวมถึงการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ก็ยังได้รับความนิยม นอกจากสามารถหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นจากเทคโนโลยี จึงเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร ค้นพบสิ่งที่ต้องการ สนใจ และศึกษา ประกอบด้วยการทำเวิร์กช็อป, การเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น, และการทำกิจกรรมที่ท้าทาย เป็นต้น

  • การท่องเที่ยวในประเทศ

การเดินทางภายในประเทศกำลังเติบโตได้ดีเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้นักท่องเที่ยวหันมาให้ความสนใจกับการเดินทางภายในประเทศมากขึ้น และเกิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ หรือการค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงยังเป็นการรณรงค์หนึ่งในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง

  • นักท่องเที่ยวชื่นชอบการทำงานไปท่องเที่ยวไป และ Digital Nomad

การเติบโตของกลุ่ม “Digital Nomad” ที่สามารถทำงานไปด้วย ปัจจุบันสามารถทำงานไปด้วย ท่องเที่ยวไปด้วยได้ในหลายๆ ประเทศแล้ว บางประเทศมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้จำนวนมาก การเติบโตนี้ทำให้ทราบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวว่า นักท่องเที่ยวต้องการที่จะผสมผสานระหว่างการทำงาน และการพักผ่อนเข้าด้วยกันให้มีความลงตัวมากขึ้น

รวมถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนทำงานในปัจจุบันที่ไม่ต้องเข้าบริษัทได้ ผลพวงมาจากเทคโนโลยี และนโยบายของบริษัทบางแห่งที่คอยซัพพอร์ต นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การท่องเที่ยวใหม่ที่น่าจับตามองในอนาคตข้างหน้า

...

เทรนด์ท่องเที่ยวในปี 2025 มุ่งเน้นไปที่การเดินทางที่ยั่งยืน, สุขภาพ, และเป็นส่วนตัวมากขึ้น เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นักท่องเที่ยววางแผนและจองทริปได้ง่ายขึ้น ผู้ประกอบการในวงการท่องเที่ยวต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

ติดตามกันว่าในปี 2025 นี้ต้องติดตามกันต่อว่าจะเกิดเทรนด์ที่น่าสนใจใหม่ๆ ขึ้นต่อจากนี้หรือไม่ เนื่องจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ภาวะสังคม และปัจจัยต่างๆ ที่มีแนวโน้มที่พัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ภาพ : istock