KBANK ถูกขายหนัก!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 ต.ค.59 ปิดที่ 1,477.34 จุด ลดลง 0.27 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 59,965.59 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 5,571.54 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนไทยกลุ่มอื่นๆเป็นผู้ซื้อสุทธิทั้งหมด

บล.เคทีซีมิโก้ ระบุว่ามีแรงขายหุ้น KBANK ออกมาหนัก แม้ว่ากำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์กังวลว่าธนาคารจะต้องตั้งสำรองในระดับสูงต่อไป เพื่อชดเชย NPL Coverage Ratio ที่อ่อนแอ รวมถึงเป้าหมายสินเชื่อปีหน้าที่ผู้บริหาร KBNAK ตั้งเป้าโตเพียง 4-6% ชะลอตัวจากปีนี้ที่คาดว่าจะโต 6-7% ซึ่งจะกดดันกำไรไปถึงปีหน้าล่าสุด KBANK ปิดที่ 179.50 บาท ลดลง 10 บาท

ทั้งนี้ หากไม่นับหุ้น KBANK ที่ถูกเทขายกดราคาดัชนีตลาดภาพรวมน่าจะบวกได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มองว่าภาพรวมตลาดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง โดยดัชนีหุ้นได้กลับมายืนใกล้เคียงจุดเดิม

หลังผันผวนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่นักลงทุนจึงเริ่มกลับมาเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็กมากขึ้น

ประเมินทิศทางหุ้นไทยระยะสั้น ยังแกว่งกรอบแคบ แต่มีโอกาสเห็นดัชนีอยู่ในแดนบวกมากขึ้น ทั้งนี้ยังต้องติดตามพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ หลังค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างประเทศจะเริ่มกลับมามีน้ำหนักมากขึ้นต่อบรรยากาศการลงทุนมากขึ้น ทั้งแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล แนะกลยุทธ์เก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็กรายตัว

บล.เอเชีย เวลท์ คาดตลาดยังผันผวนจากเฟดมีโอกาสสูงที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องรอดูสถานการณ์ของประเทศ ปฏิกิริยาการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ต่อไป รวมทั้งผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดยังเพิ่งเกิดมี Falling gap และ Rising gap ที่มีช่วงกว้างพอสมควรซึ่งชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่ใจของนักลงทุนในระยะนี้ สัปดาห์นี้แนะซื้อหุ้น ERW ให้ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท!!

ปิดท้าย มีข่าว “เอก สุวัฒนพิมพ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีลิค คอร์พ ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย รวมทั้งวิจัยและพัฒนากาวอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ที่ใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องหนัง บรรจุภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ มั่นใจว่าหุ้นที่จะเข้าซื้อขายในตลาด mai วันที่ 18 ต.ค.นี้จะได้รับการตอบรับที่ดี หลังยอดจองหุ้นซื้อหุ้นไอพีโอล้นเกินจำนวนที่เสนอขายที่ 80 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท!!

อินเด็กซ์ 51