ต่างชาติซื้อแล้วแสนล้าน!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 ส.ค.59 ปิดที่ 1,548.21 จุด เพิ่มขึ้น 5.95 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 69,832.25 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 5,290.45 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด TRUE ปิด 9.10 บาท บวก 0.15 บาท, KBANK ปิด 201 บาท บวก 1 บาท, SCB ปิด 164.50 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท, ADVANC ปิด 186 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท, AOT ปิด 416 บาท บวก 4 บาท

หุ้นไทยยังคงเดินหน้าทำนิวไฮต่อเนื่อง ด้วยแรงผลักดันจากแรงซื้อในหุ้นใหญ่ที่ดันราคาทะยานต่อเนื่อง ขณะที่ต่างชาติยังเดินหน้าไล่ซื้อ โชว์ยอดซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปีแตะระดับแสนล้านบาทแล้ว!!

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า หลังจบประเด็นการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นักลงทุนจะกลับมาโฟกัสผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ทั้งในส่วนที่ได้ประกาศไปแล้ว และรอประกาศงบที่จะออกมา รวมถึงการประกาศเงินปันผลระหว่างกาล

นอกจากนี้ต้องติดตามการทบทวนประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของบรรดานักวิเคราะห์สำนักต่างๆ หลังรายงานผลงานไตรมาส 2 แล้ว เพื่อดูราคาเหมาะสมว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ หากพิจารณา EPS เทียบกับ PE ซึ่งขณะนี้พบว่าหลายตัวเริ่มปรับประมาณการขึ้นบ้างแล้ว

ทั้งนี้ คาดการณ์ทิศทางหุ้นไทยระยะสั้นบวกต่อในกรอบจำกัด หลังตอบรับข่าวดีผลประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และเข้าใกล้วันหยุดยาววันแม่แห่งชาติ แต่เชื่อว่าแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ อย่างแบงก์และพลังงาน จะยังผลักดันให้ดัชนีไปต่อ ด้านเทคนิคให้แนวต้านไว้ที่ 1,560 จุด ส่วนแนวรับ 1,537-1,533 จุด

แนะกลยุทธ์การลงทุน เน้นลงทุนหุ้นรายตัวที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยแบ่งการเก็งกำไรใน 3 กลุ่มหลักคือ หุ้นที่อิงกระแสเงินทุนต่างชาติ ทั้งแบงก์ใหญ่และค้าปลีก หุ้นปันผลเด่น เลือก ADVANC–INTUCH และหุ้นที่ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นภายหลังประกาศงบ Q2/59 เช่น BJC–HMPRO–ARW!!

ขณะที่ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ไม่อาจต้าน Fund flow และความคืบหน้าที่จะมีการเลือกตั้งปลายปี 2560ได้ จึงใช้ดัชนีเป้าหมายปี 2560 มาแทน จะได้ที่ระดับ 1,590 จุด (EPS ที่หุ้นละ 97.6 บาท)

แนะกลยุทธ์เลือกหุ้นใหญ่-กลางที่ยัง Laggard คือธนาคาร (BBL–TMB) พลังงาน (PTTEP–RATCH) และโรงพยาบาล (BH–BDMS) รวมทั้งเลือก PTTEP ให้ราคาเป้าหมาย 89 บาท เป็น Top pick.

"อินเด็กซ์ 51"